"ปิยบุตร" ลุยอุบลฯ รับฟังปัญหาที่ทับซ้อนชุมชน-อุทยานฯ

โดยนายศิรสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ต่อสู้ร่วมกับชาวบ้านมาด้วยกันก่อนหน้านี้ พร้อมด้วยตัวแทนของชาวบ้านผู้ได้รับผ]กระทบ แลกเปลี่ยนถึงความเป็นมาของปัญหาข้อพิพาท โดยระบุว่าก่อนหน้านี้ ชุมชนและชาวบ้านรอบเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้อยู่อาศัยบนที่ดินแห่งนี้มานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อมีการพบภาพเขียนสีโบราณ รัฐบาลได้ประกาศเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้ทำการเดินสำรวจพื้นที่ แต่ไปกางแผนที่แล้วขีดเส้นเลย ทำให้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ ถูกสั่งให้ย้ายออก ถูกรื้อบ้านทิ้ง หรือถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละยุคสมัย ว่าจะอนุโลมหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่
นายปิยบุตร กล่าวว่า เรามีกฎหมายที่เกี่ยวกับป่าไม้และการอนุรักษ์เป็นจำนวนมาก แต่ละฉบับก็กำหนดโทษแตกต่างกันไป ภายใต้หน่วยงานรับผิดชอบหลายหน่วยงาน ทำให้เกิดแนวนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เอาผิดและดำเนินการต่อชาวบ้านอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ และมีสาเหตุมาจากสองเรื่องหลัก คือ 1.หน่วยงานและกฎหมายที่ซ้ำซ้อนกัน และ 2.วิธีคิดที่มองว่าป่าเป็นของรัฐ รัฐเท่านั้นที่จะเป็นผู้ดูแล ตลอดจนเป็นคนที่ขีดเส้นแบ่งต่างๆ และออกแบบให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
"พรรคอนาคตใหม่มีแนวนโยบายในการแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยประกอบไปด้วยสามขั้นตอนหลัก คือ 1.บรรดาคดีอาญาวามข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รวมทั้งคดีที่เพิ่มขึ้นหลังการเข้ายึดอำนาจของ คสช.พร้อมมาตรการทวงคืนผืนป่า ต้องยุติลงเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดให้มีการพูดคุยตกลงแก้ไขปัญหาร่วมกัน 2.จัดการสะสางพื้นที่ ทำการขีดเส้นแบ่งพื้นที่ใหม่โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน พื้นที่ๆเป็นป่าเสื่อมโทรมไปแล้ว ต้องทำการออกโฉนดให้ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง และ 3.กรณีเขตป่าอนุรักษ์ พื้นที่ต้นน้ำต่างๆ ต้องออกแบบวิธีการจัดการใหม่ให้ทั้งรัฐและชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน" นายปิยบุตร กล่าว
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า วิธีคิดแบบปัจจุบันนี้ เขามองชาวบ้านเป็นลูกน้อง เขาคือเจ้านาย จะเปลี่ยนยังไงก็ต้องเอาตามนั้น ไม่อย่างนั้นต้องโดนลงโทษ ถ้าผู้ว่าฯ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หรืออุทยาน มีวิสัยทัศน์ก็อนุโลม ถ้าไม่มีก็บังคับใช้มาตรการรุนแรง เราต้องเอาอำนาจกลับมาให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งรู้พื้นที่ดีที่สุด เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ สร้างพื้นที่ๆทั้งชาวบ้านและรัฐเป็นเจ้าของร่วมกัน เข้ามามีอำนาจตัดสินใจให้สามารถทำการอนุรักษ์ ทำกิน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไปพร้อมๆกันได้
ด้าน นายศิรสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับวิสัยทัศน์ที่ตนมีต่ออีสานนั้น คือเรื่องของการ "พาไทยอีสานคืนถิ่น" ด้วยตนเห็นภาพของคนอีสานที่ต้องอยู่กับความยากจน ต้องย้ายถิ่นฐานไปหางานหารายได้ทำในเมืองใหญ่ด้วยความยากบำบาก ตนซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับพรรคอนาคตใหม่เรื่องการกระจายอำนาจ จึงชูเรื่องนี้ขึ้นมา เราต้องกระจายอำนาจและเงินภาษีกลับมาสู่ท้องถิ่น ที่สำคัญคือการพัฒนาความเจริญ สร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น ให้คนอีสานได้อยู่บ้านกับครอบครัว มีงานและรายได้ที่มั่นคง ช่วยกันเป็นกำลังในการพัฒนาบ้านเกิดของเรา ไม่ต้องทิ้งถิ่นไปยากลำบากอีก
ผู้สื่้อข่าวรายว่ว่า ในช่วงบ่าย นายปิยบุตรพร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ได้ร่วมกันลงพื้นที่หาเสียงต่อในตลาดอำเภอศรีเมืองใหม่และตลาดอำเภอตระการพืชผล โดยระหว่างการลงพื้นที่นั้น ได้มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจและพูดคุยด้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่อยากให้มีการแก้ไขโดยเร็ว