svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

แมนพาวเวอร์กรุ๊ปฯ ชูการพัฒนาทักษะแรงงาน-การศึกษารับการแข่งขันตลาดโลก

20 กุมภาพันธ์ 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยสถานการณ์ทิศทางตลาดแรงงานชะลอตัว แนะองค์กรธุรกิจเตรียมรับมือเร่งพัฒนาคนด้านทักษะแรงงานและด้านการศึกษา โดยเฉพาะทักษะความรู้ทางด้านเทคโนโลยี (High-Tech Skill) ชูจุดแข็งมืออาชีพด้านการบริหารจัดการบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายและคัดสรรบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมเผยผลประกอบการปี 2561 กวาดรายได้ 4,500 ล้านบาท เติบโต 12 เปอร์เซ็นต์

มร.ไซมอน แมททิวส์,ผู้จัดการประจำประเทศไทย,แถบตะวันออกกลาง และเวียดนามแมนพาวเวอร์กรุ๊ปผู้นำที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมแรงงานกว่า80ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทย กล่าวว่าภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจระดับโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว จะเห็นได้จากเศรษฐกิจประเทศจีนชะลอตัวและยังมีเรื่องของสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน ส่วนในประเทศไทย ล่าสุดประกาศให้มีการเลือกตั้งและนโยบายการลงทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือEastern Economic Corridor Development (EEC)อย่างต่อเนื่องของภาครัฐ นับเป็นช่วงที่ต้องมองทิศทางประเทศไทยปีนี้ อันมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตามประเทศไทยควรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ โดยจะต้องมีการส่งเสริมพัฒนาคนด้านทักษะแรงงานและด้านการศึกษา อีกทั้ง จากการที่ภาครัฐได้กำหนดนโยบายการปฏิรูประดับประเทศโดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือS-Curveที่เป็นการพัฒนาและต่อยอดกลุ่มธุรกิจเดิมที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะทักษะความรู้ทางด้านเทคโนโลยี (High-Tech Skill)ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงมากในปัจจุบัน



จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนและการแข่งขันทางธุรกิจ หลายองค์กรมุ่งการบริหารจัดการบุคลากรอย่าง มีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการให้บริการของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ในบทบาทที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมแรงงาน เราพัฒนาบริการและโซลูชั่นที่มีความยืดหยุ่นรองรับกับลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ด้วยการบริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งการจ้างงานแบบประจำ งานชั่วคราว งานสัญญาจ้าง รวมไปถึง งานรับเหมาประเภทต่างๆ นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ยุคโลกาภิวัตน์(Globalization)ด้วยการให้บริการแรงงานข้ามชาติ (Borderless Talent Solutions) และการให้บริการสรรหาผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง (Experis)ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงในปัจจุบัน ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจEECที่ต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านด้านต่างๆ รองรับการลงทุนจากทั้งจากภาครัฐ เอกชนและนักลงทุนต่างชาติ




สำหรับผลประกอบการของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ในปี2561มีการเติบโต12เปอร์เซ็นต์ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท และยังมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังได้ทำการสำรวจกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการที่ตรงกับความต้องการลูกค้าเสมอมา




นายวรรณชัย ไพบูลย์บารมี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่าแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เดินหน้าขยายงานทั้งในส่วนของการบริการ การพัฒนาด้านนวัตกรรมแรงงาน และจัดหาแรงงานที่ตอบโจทย์ตลาด โดยได้รับการตอบรับที่ดีด้วยความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และแรงงานทุกระดับ โดยครอบคลุมตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอี ปัจจุบัน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีสัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่35เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้บริการสรรหาบุคลากรด้านการขายและการบริการลูกค้า กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมด้านการผลิตและโลจิสติกส์25เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มเอสเอ็มอี15เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีกลุ่มแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง15%ซึ่งยังมีบริการพิเศษเฉพาะกลุ่มซึ่งเป็นสายงานที่ต้องการแรงงานเฉพาะทาง เข้ามาตอบโจทย์ไทยแลนด์4.0อาทิ ทักษะความเชี่ยวชาญด้านโรโบติกส์ กลุ่มนี้มีการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ และกลุ่มอื่นๆ อีก10%




ทั้งนี้ เรามีกลยุทธ์3ส่วนหลักในการรับมือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ คือ1. มุ่งเน้นการบริการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง2. การพัฒนาบุคลากรของเราให้มีความเชี่ยวชาญและปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งการมีนวัตกรรมในองค์กร3. การพัฒนาด้านเทคโนโลยีในกระบวนการด้านทรัพยกรบุคคลเชื่อมต่อกับพนักงาน ลูกค้าและผู้สมัครงานเพื่ออำนวยความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง




"สำหรับบริการที่แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คือ บริการ "บิสซิเนสโซลูชั่น(Business Solutions)" ที่มาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของการบริหารจัดการแรงงานในเชิงนวัตกรรม คำนึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของลูกค้า โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ป เข้าไปทำงานร่วมกับลูกค้าในการบริหารจัดการกลุ่มแรงงานที่ลูกค้าต้องการด้วยการบริหารเชิงผลลัพธ์ผ่านตัวชี้วัดของงาน ซึ่งเป็นบริการแบบเต็มรูปแบบ ทำให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่าย และยังลดภาระด้านการบริหารจัดการแรงงานด้วย พร้อมยังมีบริการส่งออกแรงงานเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของลูกค้าที่มีการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มAECถือเป็นแผนรับมือของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปที่สอดคล้องกับเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค4.0 "นายวรรณชัยกล่าว




ทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่าจากผลการสำรวจอัตราความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันมีสัดส่วนความต้องการจัดเป็น10อันดับ ดังนี้



10 อันดับสายงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานได้แก่1.งานขายและการตลาด22.65เปอร์เซ็นต์2.งานบัญชีและการเงิน12.16เปอร์เซ็นต์3.งานวิศวกร และการผลิต8.62เปอร์เซ็นต์4.งานไอที8.11เปอร์เซ็นต์5.งานธุรการ7.15เปอร์เซ็นต์6.งานบริการลูกค้า6.39 เปอร์เซ็นต์7.งานระยะสั้นต่างๆ6.28เปอร์เซ็นต์8.งานระดับผู้บริหาร5.63เปอร์เซ็นต์9.งานทรัพยากรบุคคล5.02เปอร์เซ็นต์10.งานโลจิสติกส์3.04เปอร์เซ็นต์



10 อันดับแรกสายงานที่เป็นที่ต้องการของแรงงานได้แก่1.งานขายและการตลาด22.57เปอร์เซ็นต์2.งานวิศวกร13.42เปอร์เซ็นต์3.งานธุรการ11.48เปอร์เซ็นต์4.งานทรัพยากรบุคคล8.66เปอร์เซ็นต์5.งานบัญชีและการเงิน8.57เปอร์เซ็นต์6.งานบริการลูกค้า8.26เปอร์เซ็นต์7.งานโลจิสติกส์6.42เปอร์เซ็นต์8.งานไอที4.73เปอร์เซ็นต์9.งานระดับผู้บริหาร4.18เปอร์เซ็นต์และ10.งานด้านการผลิต4.14 เปอร์เซ็นต์




สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด3อันดับแรกคือ ธุรกิจการบริการ ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์ , ค้าปลีกค้าส่ง,บริการเฉพาะกิจและที่ปรึกษาด้านต่างๆ รองลงมาคือ ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ยานยนต์ , วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร, ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ อันดับสาม คือ ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์



"อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของสถานการณ์ตลาดแรงงานแม้จะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่อัตราการว่างงานลดลงเมื่อเทียบระหว่างปี2561กับ2562อยู่ที่0.04เปอร์เซ็นต์ โดยมีปัจจัยบวกจากการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ไทยแลนด์4.0ซึ่งเป็นนโยบายการปฏิรูปประเทศไทย และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)ทำให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดแรงงาน และภาคการศึกษา ทุกฝ่ายตื่นตัว มีการตั้งรับและวางแผน รวมถึงบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนตนเอง องค์กรและประเทศไทยก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน นับว่าเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องรับมือให้ทันกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป"นางสาวสุธิดากล่าวทิ้งท้าย

logoline