หัวใจทำด้วยอะไร ห่าโหดสาวใช้ ฝั่งดิน6ปี
ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีอัยการยื่นฟ้อง น.ส.กฤษณา หรือ โมนา สุวรรณพิทักษ์ อายุ 47 ปี อดีตผู้เข้าประกวดสาวงาม ,น.ส.ปรารถนา หรือ เม้า ท้วมทรัพย์ สาวทอม (แฟน) จำเลยที่2 และ นายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ พี่ชายน.ส.กฤษนา จำเลยที่3 ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนถึงแก่ความตาย และ ซ่อนเร้นทำลายศพ นำไปฝังดินในพื้นที่จ.เพชรบุรี ตั้งแต่ ก.พ .55 น.ส.กฤษณา พา น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือ น้องน้ำ อายุ 16 ปี มาทำงานรับใช้ แต่วันที่ 11 เม.ย. 55 โดยใช้กระป๋องสเปร์ยปรับอากาศ ทุบตีที่ศีรษะน้องน้ำจนกรามหัก ใช้เครื่องดูดฝุ่นดี ใช้ที่หนีบผมขณะที่ยังมีความร้อนจี้ตามลำตัว บาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เม.ย. นำศพไปฝังอำพรางที่ จ.เพชรบุรี ที่ผ่านมาจำเลยที่1 ให้การปฏิเสธ -ได้ประกันตัวในชั้นศาล ผ่านไป 1ปี 5เดือน
จำเลยทั้ง 3 เดินทางมาศาล ด้วยสีหน้าแจ่มใส น.ส.โมนา ได้เจอกับแม่ผู้ตาย น้องน้ำ สะบัดหน้าหนี ส่วนพี่ชายจำเลยที่3 ยกมือไหว้ แต่แม่ของน้องน้ำยังมีสีหน้าเศร้าสร้อย โดยเฉพาะศาลศาลอ่านคำพิพากษาศาลใช้เวลาประมาณ 45 นาที อ่านคำพิพากษา พิเคราะห์จากพยานที่เป็นน้องสาว ต่างมารดา และ ลูกสาว และ นางโดโร ทิมพิทักษ์ มารดานางสาวกฤษา ที่ให้การต่างๆ ตรงกัน และจำเลยที่2 ให้การ 5 ครั้ง. มีข้อเท็จจริงเหมือนกันทุกครั้งสอดคล้องกับพยายน และการสอบสวนจำเลยที่2 และจำเลยที่3 เป็นไปโดยชอบ ประกอบกับการสืบพยานถึงนิสัยของ น.ส. กฤษนา โดย น.ส.ธีรตีย์ หรือ เฟีย ทองมี ลูกสาว พยานให้การว่าเคยมีแม่บ้านเคยถูกทำร้ายจนต้องลาออกไป2 คน และ เคยทำร้ายใช้กระป๋องเสปรย์ ตีลูกสาว กับ แฟนหนุ่ม โดยจำเลยที่ 1 เป็นคนโมโฆร้าย ใจร้อน ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทย์แล้วรับฟังได้ว่า ขณะที่ในช่วงเกิดเหตุ จำเลยทุบตีศรีษะ และแขนใช้ท่อพลาสสติกตีขา เครื่องใช้ไฟฟ้า จี้ตามตัวผู้ตาย แม้จะอ้างว่าไม่ได้ต้องการฆ่าผู้ตาย แต่ใช้ของแข็งตี ย่อมเล็งเห็นผล จึงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า คนตายโดยเจตนา
ศาลพิเคราะห์จาพยานหลักฐาน พิพากษาให้ จำเลยที่ 1 จำคุกตลอดชีวิต พร้อมจ่ายค่าสินไหมค่าทำศพ ค่าเดินทางในการติดตามคดี และ การเสียโอกาสการอุปาการะเลี้ยงดูจากลุก การละเมิดทำให้บุตรของผู้ร้อง ตาย รวมเป็นเงินกว่า 1.6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2555 จนกว่าจชำระเสร็จ ส่วนจำเลยที่ 2 -3 จำคุก 2 ปี แต่จำเลยคำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1ใน3 คงเหลือ จำคุก 1 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 คุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
นาง จันทิรา ศรีศักด์ คุณแม่น้ำน้อง กล่าว ก่อนศาลตัดสิน ด้วยสั่นเสียงสั่นเครือ เชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แม้ต้องรอมาถึง 5 ปี ค้นหาศพ และ อีก1ปี 5เดือน ที่ศาลตัดสิน พอใจกับคำตัดสินของศาล แต่ก็ยังไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงลูกสาว น้องได้รับความยุติธรรมแล้ว ฟ้ามีตา สวรรค์มีใจ ช่วยให้คนผิดที่ทำได้รับโทษ ยอมให้อภัยเพื่อเป็นบุญกุศลให้น้องน้ำไปเกิดสู่ภพภูมิที่ดี
ผ่านไป 5 ปี นางจันทิรา ที่อยู่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง ก็ได้ทราบเบาะแสสำคัญจากโทรศัพท์ลึกลับ ต่อมาทราบว่า คือ น้องสาว ต่างมาดา จึงทราบว่า ลูกสาวถูกนายจ้างทำร้ายจนเสียชีวิต ศพฝังอยู่หลังบ้านแม่นายจ้าง ใน จ.เพชรบุรี จากนั้นก็เข้าขอความช่วยเหลือจากกองปราบปราม และ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการสืบสวน นำตัวคนสนิทกับ น.ส.กฤษณา ทั้งนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ หรือ บอย พี่ชาย , น.ส.ปรารถนา ท้วมทรัพย์ หรือเม้าท์ ทอมคู่ขา , น.ส.ปนัดดา หรือฟาร์ สุวรรณพิทักษ์ ญาติ, น.ส.ธีรตีย์ หรือ เฟีย ทองมี บุตรสาว,นางโดโร ทิมพิทักษ์ มารดา, มาสอบเมื่อถูกเค้นหนักเข้าทั้งหมด จึงยอมเปิดปาก ว่า น.ส.กฤษณา เป็นคนอารมณ์ร้อน หากไม่พอใจก็จะทำร้ายทุบตีร่างกายน้องน้ำเป็นประจำ น.ส.กฤษณา ใช้กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศ ตีไปที่ใบหน้าของน้องน้ำ จนกราม ซี่โครงหัก ร่างกายบอบช้ำ ทิ้งไว้หนึ่งสัปดาห์ จนผู้ตายบออบช้ำเสียชีวิติ จากนั้น น.ส.กฤษณา ได้ปรึกษา นายปราโมทย์ ว่าจะจัดการกับศพอย่างไรดี เบื้องต้นได้ใช้กระสอบห่อศพชั้นแรก ชั้นสองเป็นถุงดำ ส่วนชั้นนอกสุดห่อด้วยเสื่อน้ำมัน
ระหว่างนั้นติดต่อไปที่สัปเหร่อของวัดแห่งหนึ่ง อ.แก่งกระจาน เพื่อขอให้จัดการเผาศพให้ อ้างว่าเป็นศพคนต่างด้าว แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีใบมรณะบัตร จึงเปลี่ยนแผน นายดำ คนรู้จักซึ่งพักอาศัยอยู่ในละแวกบ้านของ นางโดโร แม่ของ น.ส.กฤษณา ก่อนว่าจ้างให้ ขุดหลุมหลังบ้าน นางโดโร ซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ออกอุบายว่าจะนำลูกวัวไปฝัง
จากนั้นทั้งหมดก็นำศพน้องน้ำขึ้นรถเก๋ง น.ส.กฤษณา มีนายปราโมทย์ น.ส.ปรารถนา น.ส.ปนัดดา และ น.ส.ธีรตีย์ ร่วมเดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงทั้งหมดได้นำศพน้องน้ำเข้าไปในบ้านของนางโดโร เพื่อไม่ให้คนพบเห็น ก่อนยกศพข้ามกำแพงบ้านไปฝังไว้ใต้ต้นตาล ริมกำแพงบ้าน ที่แม่นำน้องน้ำไปรอนายจ้าง มารับไปทำงานที่กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ ร่วมกันขุดหาศพ แต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ารกร้าง ช่วยกันถางป่าให้โล่งเตียน ตรวจสอบชั้นดินด้านบนใกล้ต้นตาล ระหว่าง ขุดหาร่างลูกสาวอยู่นั้น นางจันทิรา จุดธูปพร้อมทั้งกล่าวว่า "น้องน้ำ แม่มารับแล้วนะลูก ถ้าลูกอยู่แถวนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ขุดเจอลูกด้วย แม่จะนำลูกไปบำเพ็ญกุศล
ขุดกว่า 1 ชั่วโมง ลึกหนึ่งเมตรครึ่ง พบห่อเสื่อน้ำมันขนาดใหญ่ เปิดดูพบผ้าห่มห่อหุ้มถุงขยะพลาสติกดำ เมื่อคลี่ออกพบโครงกระดูกมนุษย์ ศพดังกล่าวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกางเกงในสีเนื้อ ไม่พบเสื้อผ้าและหลักฐานอื่น เบื้องต้นพบกรามด้านซ้ายและซี่โครงขวาหัก นางจันทิรา ถึงกับทรุดเข่าร่ำไห้ ยืนยันว่าเป็นศพลูกสาวแน่นอนเพราะจำลักษณะรูปร่าง เส้นผม เสื้อเชิ้ตและกางเกงในของลูกได้
ศาลอาญาออกหมายจับที่ 2431/2560 ลงวันที่ 4 พ.ย.2560 ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย กับ น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ "โมนา" อายุ 45 ปี ขณะกบดานที่ลานนารีสอร์ท ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
โมนา สารภาพ ว่าเป็นคนลงมือฆ่าอำพรางศพน้องน้ำจริง แต่ต่อมาก็กลับคำให้การซัดทอดว่าเป็นฝีมือ น.ส.ปรารถนา ทอมคู่ขา ซึ่งจะมักไปๆ มาๆ ที่บ้าน โดยในวันเกิดเหตุ ขณะที่ น.ส.เมาท์ แวะมาพักที่บ้านตน ก็ได้ลงมือทำร้ายทุบตีน้องน้ำจนฟกช้ำดำเขียวไปทั่วตัว โดยไม่รู้ว่าเด็กไปทำอะไรผิด กระทั่งเช้าอีกวันก็เห็นว่าน้องน้ำนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นชั้นล่าง เมื่อเข้าไปดูพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความตกใจกลัว จึงรีบโทรศัพท์ปรึกษาพี่ชายก่อนนำศพน้องน้ำไปฝังหลังบ้านแม่ หลังจากนั้นโมนาได้ประกันตัวในชั้นศาล ก่อนที่จะมีคำตัดสินจากศาลอาญาวันนี้
แม้ศาลจะตัดสินประหารชีวิต ....โมนา มีสีหน้าเรียเฉย ยิ้มได้ ไม่ได้สะทกสะท้าน ถึงชีวิติที่สูญเสียไป ..และ...ยังเดินหน้าอุทธรณ์คดีต่อ