"ตัดงบ-เลิกเกณฑ์ทหาร" แล้วใครปกป้องแผ่นดิน ?

ตัดงบ-เลิกเกณฑ์ทหาร

แล้วใครปกป้องแผ่นดิน!

 "...หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน...!"  เพลง "หนักแผ่นดิน" ที่แต่งโดย พ.อ.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก และขับร้องโดย ส.อ.อุบล คงสิน และ ศิริจันทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ตั้งแต่ปี 2518 หรือ 44 ปี ที่ผ่านมา กลับมาดังกระหึ่มอีกครั้งเมื่อ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ไล่ให้คนคิดนโยบายเลิกการเกณฑ์ทหารไปฟังเพลงนี้ 

 บทเพลง "หนักแผ่นดิน" เคยดังกระหึ่มครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2549 ในครั้งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่  ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนการรัฐประหาร เดือนกันยายน 2549

นโยบายเลิกการเกณฑ์ทหาร ถูกจุดมาครั้งแรกโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และมาสำทับด้วย "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านกองทัพ ที่ถูกมองว่าเข้าใช้กำลังพล และอาวุธในการยึดอำนาจรัฐไปจากฝ่ายการเมือง และตามมาด้วยการประกาศตัดงบประมาณของกองทัพ ในนโยบายของพรรคในเครือข่ายและพรรคพันธมิตร ระบอบทักษิณ ที่เสมือนประกาศจะเข้าไป "ล้างบาง" กองทัพ หากได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง

ซึ่งจะเป็นการเอาจริงหรือเพื่อหวังคะแนนก็สุดจะเข้าใจได้ แต่ต้องทำความเข้าใจในรากเหง้าของความเป็น "ชาติ" ที่เป็นเอกราชของไทยมาตลอด เพราะการมีสถาบันกษัตริย์ที่ดี และมีเหล่า "ทหาร" ที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต กันมาแล้วหลายรุ่น จนรักษาความเป็น "ชาติ" มาให้นักการเมืองได้ "ทึ้ง" กินกันอยู่จนถึงทุกวันนี้

การเสนอเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นข้อเสนอที่เอาความ "สะใจ" และสิ้นคิด ประเทศจำเป็นต้องมี "กองกำลัง" ในการป้องกันตนเอง และไว้ปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ให้ชาติใดมาใช้กำลัง หรือกลอุบายใดๆ ที่จะมามีอำนาจและอิทธิพลเหนือเราได้

ถ้าต้องมานั่งอธิบาย "รัฐศาสตร์เบื้องต้นให้ผู้อาสาเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป เห็นทีต้องบอกว่า "ผู้เสนอตัวคนนั้น" ควรทบทวนตัวเองและเลิกคิดจะมาเป็นผู้นำประเทศเสียเถอะ ส่วนการเสนอตัดงบประมาณ กระทรวงกลาโหม หากเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ และความจำเป็น ก็สามารถทบทวนได้ ผู้นำเหล่าทัพก็ไม่มีสิทธิที่จะออกมาคัดค้าน เพราะผู้ที่จะมาถืออำนาจรัฐใหม่เขาพิจารณาทรัพยากรอันมีอยู่อย่างจำกัด แล้วแต่เขาว่าจะให้ความสำคัญด้านใดมากกว่ากัน

เพียงแต่ไม่ควรเสนอแบบ "มักง่าย" เอาความสะใจ เรียกคะแนนเสียง จะลดงบประมาณเขาก็ขอให้พิจารณาให้รอบคอบ ไม่ใช่ยังไม่ทันพิจารณา บอกจะตัดงบ 10% เอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานแห่งความคิด หรือหวังแต่จะได้ "คะแนนเสียง" หันไปดูตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร งบประมาณกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-ปัจจุบัน 6 ปีงบประมาณ จะได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3.9% ไม่ได้เพิ่มในอัตราสูงเป็นพิเศษหลังรัฐประหาร ถ้าเห็นว่า "ฐานการคิด" เพิ่มปีละ 3.9% ของที่ผ่านมาตั้งแต่ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ไม่เหมาะสม ก็ทบทวนได้ แต่ขอร้องเลิกความคิด "ล้างบาง" ได้มั้ย เดี๋ยวมันจะ "ไม่จบ"