เปิดโพสต์สุดท้าย!!! ก่อนนศ.เปิดเตารมควันดับคาหอพักย่านหลักสี่ พร้อมข้อความ "ฝันดีนะ"

เมื่อเวลา 13.20 น วันที่ 15 กพ พ.ต.ต รักเกียรติ์ ปทุมวัลย์ สารวัตรเวรสอบสวน สน ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต ภายในห้องพักสตรี หลังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ รองผกก สส สนทุ่งสองห้อง
ที่เกิดเหตุ ภายในห้องพัก มีกลิ่นควันคุ้งอยู่ภายในห้องที่ข้างเตียงนอนพบศพผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิต สภาพสวมชุดนักศึกษา นอนกอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลอยู่ ใกล้ตัวพบกระทะไฟฟ้า โดยภายในกระทะพบ เศษขี้เถ้าอยู่ภายใน จากกการตรวจสอบภายในห้องบริเวณรอบหน้าต่างและประตูทางเข้ามีพลาสติกสีดำปิดทับทั่วบริเวณห้อง เบื้องต้นเสียชีวิต เกิดจากการขาดอากาศหายใจ ขณะเดียวกันพบกระดาษโน๊ตมีข้อความเขียนไว้ว่า ห้ามนำร่างออกจากห้อง ก่อนเวลา 03.00 น เพราะตีสามคนน้อยสุด ไม่อนุญาติให้รถโรงพยาบาลหรือรถกู้ภัยเปิดไซเรนมา ขอความอนุเคราะห์ให้นำร่างออกไปแบบเรียบง่ายที่สุด เป็นการฆ่าตัวตายแบบจงใจและวางแผนมานานขอไม่ให้ตำรวจทำการพิสูจน์หลักฐานหรืออะไรที่จะทำให้แตกตื่น ขอโทษ ลงชื่อผู้ตายวางอยู่บริเวณเตียงนอน

จากการสอบสวนทราบว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องของเพื่อนผู้เสียชีวิต โดยผู้ตายมาขออาพักอาศัยด้วย วันที่เกิดเหตุเจ้าของห้องไม่อยู่ ผู้ตายอยู่เพียงลำพังเพื่อนผู้ตายได้โทรหาผู้ตายแต่ไม่รับ จึงโทรให้เจ้าของหอพักไปไขกุญแจ ปรากฎล๊อคจากด้านใน โดยผู้ตายส่งขอความไปหามาหาเพื่อนบอกว่าเหนื่อย ขอนอนพัก เจ้าของหอจึงไม่ได้งัดเข้าไปดู กระทั่งเพื่อนผู้ตายที่เป็นเจ้าของห้องกลับมา จึงพบศพดังกล่าว โดยหลังเกิดเหตุแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาท่ามกลางความเสียใจและบอกว่า เมื่อวันที่14 ก.พ (วันวาเลนไทน์) เวลาประมาณ 16.00น.ได้โทรคุยกับผู้ตายปรับความใจว่าคงไม่ได้มาหานะ และไม่คิดว่าผู้ตายจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ดีจากการสอบถามบุคคลในครอบครัวทราบว่าผู้ตายเป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับ มีการทะเลาะแฟนหนุ่ม จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดสั้น

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำพยานและรอผลชันตสูตรศพเพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนักศึกษาสาวรายนี้ พบว่าได้โพสต์ข้อความสุดท้ายเป็นรูปขณะที่ตัวเองนอน พร้อมข้อความระบุว่า "ฝันดีนะ"