สวัสดีครับ น้าคมพาทุกท่านมาทานมื้อค่ำกันที่ร้าน "Haoma" Haoma คือชื่อของต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตตามความเชื่อของวัฒนธรรมชาวโซโลแอสตอร์และฮินดู ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนบำรุงร่างกายสร้างภูมิปัญญาพลังและชีวิตอมตะทั้งยังสื่อความหมายถึงสรวงสวรรค์ จึงทำให้ร้านดำเนินงานภายใต้แนวคิดการลดใช้ทรัพยากร การนำกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลและการลิ้มรสชาติที่ยังยืนซึ่งเห็นได้จากร้านแห่งนี้ปลูกพืชผักหลายสิบชนิดเพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารที่สดใหม่และให้รสชาติของวัตถุดิบที่แท้จริงด้วยปรัชญา "Farm to table Oasis"
ตัวร้านเป็นบ้านสไตล์โคโลเนียล ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ บรรยากาศภายในร้านส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยไม้และมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น สบายตา และเงียบสงบ เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทานมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย "Galauti cornets" เสิร์ฟมาบนขอนไม้ มีส่วนผสมของเห็ดป่าและทรัฟเฟิล ได้รสชาติเผ็ดจากเครื่องเทศ และความเปรี้ยวจาก Citrus gel
"Oyster & Corn tartar" ทาทาร์หอยนางรม รสชาติเค็ม ๆ เปรี้ยว ๆ หอมส้มยูซึ รสชาติเข้ากันได้ดี ด้านบนนั้นจะเป็นบับเบิ้ลนมข้าวโพดที่ทำออกมาเหมือนเมล็ดข้าวโพดจริง ๆ ครีเอทมากครับสำหรับเมนูนี้
"Golpappa" แป้งที่นำไปทอดจนเหลืองกรอบ สอดไส้ด้วยถั่วถั่วลูกไก่ มันฝรั่ง มิ้นท์ ท็อปด้วยโยเกิร์ต เวลาทานให้จิบน้ำมะขามที่ปรุงรสกับเครื่องเทศที่ใส่ให้มาในขวด ได้รสชาติแปลกใหม่ดีครับ
"Tomato mist" มะเขือเทศจากฟาร์ม ทำเป็นหยดน้ำวางมาบนใบหูเสือท็อปด้วยดอกแพนซี่ ดูสวยงาม ในถ้วยจะเป็นมะเขือเทศ เวย์ บลูเบอร์รี่และแตงกวา ให้ความรู้สึกสดชื่น
"The disappearing duck" ข้าวเหนียวที่เสิร์ฟกับเครื่องแกงรสชาติเข้มข้น ทานพร้อมผักเคียง อร่อยมากครับ แนะนำ
"Haoma in a bit" เนื้อปลานิลที่นำมาปรุงรสแล้วพันกับแป้งกรอบ มีแยมลูกเกดช่วยเพิ่มรสชาติ ปลาที่ใช้เชฟเลี้ยงไว้หลังร้านเลยไม่มีความคาวของปลาแม้แต่น้อย
"Pickles, Butter & Breads" ขนมปังที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง มีทั้งผักดองและชีส
"Me in a bowl" ไก่ที่ย่างกับชีส เสิร์ฟกับแกงอินเดียและหอมดอง
"petit Four" ปิดท้ายด้วยช็อกโกแลต รสชาติต่าง ๆ ฟินกันไปอีก
ทานอาหารเสร็จก็มาเดินชมสวนผักกันได้นะครับ จะเห็นได้ว่ามีผัก สมุนไพร อยู่ทุกมุม พืชผักเหล่านี้ปราศจากยากำจัดศัตรูพืช ไม่ผ่านการขนส่งและใช้เวลาเก็บรักษาในเวลาที่สั้นที่สุด จะใช้ภายใน 48 ชั่วโมง เพราะเน้นการใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ตามฤดูกาล นอกจากนั้นทางร้านจะเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ในร้านด้วยและยังนำน้ำไปรีไซเคิลสำหรับใช้ซ้ำในระบบเก็บน้ำทั้งหมด
"เราต้องการดึงดูดให้นักชิมเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างของร้านอาหารบรรยากาศแบบฟาร์มในเมืองแห่งนี้ ซึ่งนี่จะเป็นประสบการณ์รสสัมผัสที่แท้จริง" เชฟดีเค กล่าวทิ้งท้าย
ร้าน HAOMA (ฮาโอม่า)
ที่ตั้ง : 231/3 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.10110
สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูล โทร.02-258-4744
เปิดให้บริการ : วันอังคาร - วันศุกร์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 18.00-23.00 น.
เว็บไซต์ : http://haoma.dk/
https://th-th.facebook.com/HaomaBKK