โดยชาวบ้านกว่า 20 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นจากบริเวณทิ้งขยะและโคลนปฏิกูล ที่เทศบาลนครรังสิต ใช้รถดูดโคลนจากท่อระบายน้ำตามชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ แล้วนำมาทิ้งไว้ในพื้นที่ว่างเปล่า ท้ายชุมชนรณชัยและชุมชนเกลียวทอง โดยบริเวณดังกล่าวมีป้ายสีขาวตัวอักษรสีแดงระบุว่า ที่ทิ้งโคลนเลนเทศบาลรังสิต ส่วนอีกป้ายห้ามทิ้งขยะบริเวณนี้ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000 บาท เทศบาลรังสิต เช่นกัน ซึ่งสภาพบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นที่ลุ่มมีต้นหญ้ากกขึ้นปกคลุมหนาทึบ ซึ่งถ้ามีลมพัดแรงจะมีกลิ่นเหม็นลอยมา ชาวบ้านใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นมานานกว่า 2 ปี แล้ว หลังจากร้องเรียนไปทางเทศบาลที่รับผิดชอบก็เงียบหาย
ทางด้านพระครูอนุกูลธัญกิจ เจ้าอาวาสวัดแสงสรรค์ กล่าวว่า ที่ดินของวัดมีจำนวนมากซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ โดยบริเวณดังกล่าวมีจำนวน 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ลุ่มและเป็นทุ่งนาเก่าประกอบกับมีต้นหญ้ากกขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ เมื่อปี 2558 เทศบาลนครรังสิตได้ใช้เครื่องจักรมาดันดินในพื้นที่เพื่อทำเป็นคันถนนตลอดแนวท้ายชุมชนเพื่อทำถนนให้ชาวบ้านได้ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมา และเป็นเส้นทางรัดแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนรังสิต-นครนายก จึงทำให้พื้นที่วัดบริเวณนั้นเป็นแอ่งกระทะ
ซึ่งทางเทศบาล บอกว่าจะเอาโคลนเลนจากคูคลองต่างๆ ที่ทางเทศบาลฯขุดลอกมาถมที่บริเวณแอ่งนี้ แต่ก็ไม่ได้มาถมตามที่บอกไว้ ทางวัดจึงทักท้วงไปหลังจากนั้นทางเทศบาลได้มาเกลี่ยดิน และนำขยะจากที่ต่าง ๆ มาใส่ไว้จากนั้นนำดินมากลบ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ในส่วนตัวอาตมาไม่ทราบว่าขยะที่นำมาถมเป็นอะไรบ้าง.