พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. กล่าวว่า "ประเทศไทยกับประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรต่อกันอย่างยาวนานกว่า 200 ปี โดยปรากฏความร่วมมือต่างๆ หลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมวัฒนธรรม นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสิ่งแวดล้อม ได้มีการดำเนินโครงการอุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้ (Sister Parks Arrangement for Resources and Knowledge Sharing; SPARK Project) เป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิอมตะกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กร International Conservation Caucus Foundation (ICCF) ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อยกระดับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน สู่มาตรฐานสากล โดยมีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานฯ นำร่อง
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ ในนาม SPARKที่มีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานฯ นำร่องนี้ เป็นความร่วมมือที่อยู่ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ กับมูลนิธิอมตะ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 โดยทางมูลนิธิอมตะให้การสนับสนุนและทำงานประสานกับผู้เชี่ยวชาญอาสาด้านต่างๆ ทั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ มาร่วมให้คำแนะนำและวางแผนปรับปรุงระบบการบริหารจัดการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงการบริหารจัดการนักท่องเที่ยวและการจัดการด้านอื่นๆ เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากล
เพื่อให้แนวทางการพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ดังนั้นกรมอุทยานแห่งชาติฯ กับมูลนิธิอมตะ จึงทำความตกลงที่จะขยายกรอบเวลาออกไปจนถึงปี 2568 โดยอาศัยโครงการปรับปรุงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฉบับเร่งด่วนจำนวน 11 โครงการ ที่คณะผู้เชี่ยวชาญอาสาจากสหรัฐอเมริกาได้นำเสนอไว้เป็นแนวทาง ซึ่งทางกรมฯได้เริ่มดำเนินการไปแล้วหลายโครงการ อาทิ การปรับปรุงอาคารสถานที่ และการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เป็นต้น
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เผยว่า สำหรับการบริหารจัดการเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้มีมาตรฐานสากล ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเร่งด่วนข้างต้น เพราะนอกจากจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้แล้วนั้น การใช้ประโยชน์จากเส้นทางศึกษาธรรมชาติอย่างเต็มที่และถูกหลักวิชาการ จะช่วยส่งเสริมให้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญอาสาจากภารกิจ SPARK Mission III ได้สำรวจพื้นที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จำนวนหลายเส้นทาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบำรุงรักษาและฟื้นฟูเส้นทางศึกษาธรรมชาติเดิม การประเมินหาเส้นทางฯ ใหม่ๆ ตลอดจนการพัฒนาระบบการสื่อความหมายให้เหมาะสม ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญอาสาได้เลือกเส้นทางฯ รอบอ่างเก็บน้ำสายศรระยะทาง 2.3 กิโลเมตรเป็นเส้นทางนำร่อง และพัฒนาให้เป็นเส้นทางที่ระลึกในโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา ครบรอบ 200 ปี อีกด้วย
นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มติมว่าการดำเนินการพัฒนาในครั้งนี้อาจไม่บรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืนได้ หากปราศจากการรับรู้ การตระหนักถึงความสำคัญ และการเข้าไปมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังนั้น โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตชุมชนโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างเหมาะสม และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และการศึกษาของประชากรในหมู่บ้านจากการสร้างโอกาส อาชีพ และรายได้ที่มั่นคงแก่ชุมชน อันจะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ หมู่บ้านเหวปลากั้ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ประจำปี 2560 ถูกรับเลือกให้เป็นหมู่บ้านนำร่องในโครงการนี้ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญอาสาได้เข้าไปศึกษา และประเมินเพื่อพัฒนาสู่หมู่บ้านแห่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีมาตรฐานระดับสากลต่อไป
การจัดงานในครั้งนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่เกิดจากแนวคิดและความร่วมมือ สู่ความเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเป้าไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้เกียรติจาก พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในพิธีเปิดช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร โดยในช่วงเช้าจะมีกิจกรรมเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานของไทยกับสหรัฐอเมริกา ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร และในช่วงบ่าย 14.30 น. จะเป็นการเสวนาโดยมี นายปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ และผู้แทนจาก ICCF ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหัวข้อเสวนา "ก้าวใหม่ของความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกา ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นสักขีพยานแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจของกรมอุทยานแห่งชาติฯ กับมูลนิธิอมตะ ผ่านพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อันเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในนาม อาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทั้งนี้ เพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมตลอดไป