เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีแก๊งโจร ใช้อาวุธมีดบุกปล้นโรงแรมแอร์พอร์ต เรสซิเด้นท์ เลขทีี่่ 179/9 ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และทำร้ายพนักงานโรงแรมพร้อมเอาเงินสดไป 30,000 บาท เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมนายยศกร เด็ดเดี่ยวยิ่ง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของโรงแรม ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืนและแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2562) นายยศกร เด็ดเดี่ยวยิ่ง อายุ 29 ปี พนักงานของ โรงแรมแอร์พอร์ต เรสซิเดนซ์ ได้แจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ ว่า ถูกกลุ่มคนร้ายจำนวน 3 คน ได้บุกเข้ามาใช้อาวุธมีดจี้ จากนั้นได้ปล้นเอาเงินไปจำนวน 30,000 บาทพร้อมกับเอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดไปด้วย ก่อนจะขับขี่รถจักรยานหลบหนีไป
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนโดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดโดยรอบ แต่ไม่พบกลุ่มคนร้ายตามที่นายยศกรกล่าวอ้าง จึงคาดว่าน่าจะมีพิรุธ จึงได้สอบสวนนายยศกร เป็นเวลา 6 ชั่วโมง จนนายยศกรรับสารภาพว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้น และได้เป็นคนเอาเงินจำนวนดังกล่าวไป.
.เมื่อเวลา 16.30 น. ทางตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นำตัว นายยศกร เด็ดเดี่ยวยิ่ง ผู้ต้องหา ที่ให้การรับสารภาพ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่โรงแรมแอร์พอร์ต เรสซิเดนซ์ โดยทางตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาได้ชี้จุดที่ก่อเหตุ ประกอบด้วย จุดที่อ้างว่าโดนทำร้ายร่างกาย จุดที่ขโมยเงินจำนวน 30,000 บาทไป และขบวนการในการถอดาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกไป ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหากลับไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อให้ร้อยเวรดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
.
.
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนตามที่ได้รับแจ้งว่ามีการปล้นในช่วงเช้ามืด พบพิรุธหลายอย่างและได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบตามนโยบาย โปลิศอาย ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ก็ไม่พบกลุ่มใคนร้ายตามที่อ้าง และจาการสอบสวนไทม์ไลน์การเกิดเหตุดูแล้วไม่น่าจะใช่ และการถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร
จึงได้มีการทำการสอบสวนผู้เสียหายอีกครั้ง กระทั่งยอมรับสารภาพว่า เป็นเอาเงินไปเองและแต่งเรื่องขึ้น เพื่อทำให้ดูเหมือนเป็นการถูกปล้น ส่วนบาดแผลที่ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกทำร้ายระหว่างต่อสู้ เกิดจาการเอามีดกรีดแขนตัวเอง เพื่อทำให้ดูเหมือนถูกทำร้าย โดยเหตุจูงใจ นายยศกรต้องการนำเงินไปใช้ส่วนตัว โดยเงินนั้นได้นำเข้าบัญชี ส่วนเซิร์ฟเวอร์ก็นำไปซ่อนไว้ในรถจักรยานยนต์
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดเตรียมนำตัวผู้ต้องหาคือนายยศกร เด็ดเดี่ยวยิ่ง ไปดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืนและข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ต่อไป....
.