ปัจจุุบัน อำเภอค็อกซ์บาซาร์ ของบังคลาเทศกลายเป็นบ้านของชาวผู้ลี้ภัยโรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคน พวกเขาบอกว่าตอนนี้รู้สึกปลอดภัยดี แต่อนาคตก็ยังไม่แน่ว่าจะได้กลับบ้านในเมียนมาร์อย่างปลอดภัยพร้อมกับสิทธิ์การเป็นพลเมืองอย่างถูกต้องหรือไม่
ผู้ลี้ภัยบางคน บอกว่าสามารถพาครอบครัวลี้ภัยออกมาได้ แต่แม่ต้องอยู่ในเมียนมาร์เพราะถูกทหารจับไป บางคนสามีถูกทหารเมียนมาร์สังหาร และทั้งหมู่บ้านถูกเผา
ปัจจุบันค่ายผู้อพยพ กูตูปาลอง เป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยส่วนมากลี้ภัยมาเมื่อปี 2560
โจลี่ บอกว่าเป็นเรื่องที่เศร้าใจมากที่ได้พบกับครอบครัวที่ทั้งชีวิตรู้จักแต่เรื่องการประหัตประหาร การเป็นคนไร้รัฐ การถูกปฏิบัติเหมือนเป็นวัวเป็นควาย และเธอก็ต้องการจะขอบคุณบังคลาเทศ เพราะที่นี่การมีตัวตนของผู้ลี้ภัยได้รับการยอมรับ เมื่อทางรัฐบาลและสำนักงานข้าหลวงใหญ่ได้ออกเอกสารยืนยันตัวให้กับผู้ลี้ภัย
เธอบอกว่าผู้ลี้ภัยทั้งหมดต่างก็ไม่มีความมั่นคง แต่ชาวโรฮิงญายังเป็นคนที่ไร้รัฐอีกด้วย พวกเขาจึงไม่มีสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หรือการเป็นพลเมืองของประเทศที่ตัวเองเกิด เธอบอกว่าเรื่องการรับประกันสิทธิ์ของคนเหล่านี้ และการได้กลับไปบ้าน เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลและทางการของเมียนมาร์