ปชป.ขอยืนหนึ่ง ไม่ร่วมตั้ง รบ. กับเพื่อไทย-พลังประชารัฐ

บนเวทีการบรรยายในหัวข้อ"เยาวชนคนหนุ่มสาวกับอนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ความฝัน ความหวัง และ ความจริง ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน หลายร้อยคนเข้าร่วมหัวพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นบรรยาย ชี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้การเลือกตั้ง ไม่เป็นตามฝัน ตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่ก็ให้ทุกคนต้องเดินหน้าต่อ ในการเลือกตั้ง ต้องเดินหน้าอย่างมีความหวัง ใช้สิทธิอย่างรู้เท่าทัน หลังจบการอภิปราย เปิดให้นักศึกษาถามตอบ มีคำถามที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงคำถามที่ นักศึกษา ถามคำถามว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ จะเลือก จะเลือกพรรคใดเพราะอะไร
                

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบว่า ประชาธิปัตย์ตั้งใจเป็นแกนนำรัฐบาล ไม่ตั้งใจเป็นฝ่ายค้าน และ ไม่ตั้งใจไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เหตุผลพูดตรงๆถือว่าการเมือง มี3ฝ่าย พรรคเพื่อไทยต่อสู้กันมายาวนาน ผมยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องขอความขัดแย้ง ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมันมีบางอย่างเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยที่พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า มันไม่สามารถตอบโจทย์ของประเทศได้ ถ้าจะต้องพาดพิงกันตรงๆก็ต้องบอกว่ามันมีเรื่องผลประโยชน์ และมีปัญหาเรื่องของการคอร์รัปชั่นมีผลประโยชน์เกี่ยวกับพวกพ้องเกี่ยวกับครอบครัว และ ถึงทุกวันนี้เราก็ยังไม่เห็นว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมไปแล้ว ถ้าให้เราไปร่วมรัฐบาล แล้วการบริหารประเทศมันย้อนกลับไปเหมือนก่อนการปฏิวัติ เราไม่เอา เราไม่เป็น เราพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน

อีกด้านหนึ่ง พลังประชารัฐ ถ้าให้เราไปร่วม แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ผมก็บอกว่า4-5ปีที่บริหารประเทศมา 1.เรื่องเศรษฐกิจสอบตก 2 .แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารประเทศ คือ อนุรักษ์นิยม รวมศูนย์อำนาจ นโยบายส่วนใหญ่มาจากแนวคิดราขการ ไม่ใช่แนวทางของประชาธิปัตย์ ถ้าถามผมจำเป็นต้องเลือก2อย่างนี้ ผมบอกว่าผมไม่จำเป็นต้องเลือกทั้ง2อย่าง ผมเป็นฝ่ายค้านได้ แต่ถ้าหาก ปชป.เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แล้วพรรคใดพร้อมที่จะมาทำตามอุดมการณ์ของเรา ก็ต้องมาเจรจากัน ถ้าเรามั่นใจว่าถ้าเขามาทำงานกับเราแล้วมันเดินไปในทิศทางเดียวกัน ก็มาร่วมกัน แต่ที่แน่นอนทั้งหมดก็กลับมาที่มันอยู่ที่ว่าประชาชนเลือกมายังไงถ้าเลือกเกิน 250 ก็ไม่ต้องมาถามสมมุติว่าถ้าเลือกมาเกือบ200 160 170 แล้วเป็นพรรคใหญ่ ถ้ามีพรรคมาสนับสนุนได้ก็ตั้งรัฐบาลผสมตามที่เสนอ ถ้าผมต่ำกว่า100 ก็ไม่ต้องมาถามผม ผมไม่อยู่แล้ว ก็ต้องไปถามสมาชิกพรรคที่เหลือ เขาจะเอายังไง....

.