รัฐบาลประกาศ 6 พ.ค. หยุดราชการ "ร.10" เสด็จออกให้ปชช.เข้าเฝ้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.62 เวลา 14.10 น.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า ถือเป็นงานพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของคนไทย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.นี้ มีพิธีพลีกรรมตักน้ำทุกจังหวัด โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน จากนั้นวันที่ 8 - 9 เม.ย. พิธีเสกน้ำที่ต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

และวันที่ 18-19 เม.ย.พิธีเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยเรื่องของน้ำนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าขอให้เป็นน้ำที่สะอาด โดยต้องมีการพิสูจน์ คัดกรองต่างๆ ให้ดี ให้บริสุทธิ์ สะอาด ถือเป็นมงคลเพราะทรงใช้สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันที่ 22-23 เม.ย.จะเป็นพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ซึ่งทั้งหมดนี้คือกิจกรรมในเดือนเม.ย.

นายกฯ กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันที่ 2 พ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จบวงสรวง และวันที่ 3 พ.ค.จะเป็นพิธีเชิญพระสุพรรณบัฏเข้าวัง และประกาศการบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมีครม.และคู่สมรสไปร่วมด้วย ส่วนวันที่ 4 พ.ค. ช่วงเช้าจะเป็นพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงบ่าย ถวายพระพร ช่วงเย็น พิธีประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และพิธีสักการะพระบรมอัฐิ ส่วนช่วงค่ำ จะเป็นพิธีเถลิงพระแท่นบรรจถรณ์ จากนั้นวันที่ 5 พ.ค. ช่วงเช้า มีพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย ช่วงเย็น พิธีเลียบพระนคร ส่วนวันที่ 6 พ.ค. ช่วงเย็น เสด็จออกให้ประชาชนเข้าเฝ้า และรับคณะทูต โดยในวันที่ 6 พ.ค.นี้ ได้มีการหารือแล้วเห็นควรให้เป็นวันหยุดราชการ ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ อาทิตย์และจันทร์ เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยดี  

นายกฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ยังมีอีกพอสมควร เป็นกิจกรรมถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน มีตั้งแต่เรื่องการเปิดโครงการในเรื่องของคลองเปรมประชากร ในต่างจังหวัดก็มีเรื่องของคู คลองทั่วประเทศ เรื่องของการทำจิตอาสา การจัดสวดมนต์ และกิจกรรมของหลายศาสนา ซึ่งจะมีกิจกรรมตลอดทั้งเดือน