11 องศา ที่ "ม่อนจาวดอย"

หลังจากผ่านค่ำคืนที่เย็นยะเยือก กับอาหารอร่อย แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่สามารถนั่งทนทานกับอากาศที่แสนจะหนาวเย็นไม่ไหว จึงต้องขอลาเข้าที่พักในช่วง 5 ทุ่มเศษ เพื่อนอนเอาแรงเตรียมตัวเชียร์ฟุตบอลทีมโปรด อย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (MAN-U) จะที่ลงโม่แข้งกับไอ้ปืนใหญ่ (อาเซนอล) ในศึก เอฟเอ.คัพ ช่วงเวลา ตี3 แต่แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะหลังจบเกมผลสกอร์ออกมา ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เอาชนะคู่แข่งไปได้ 3-1

หลังจากนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ไปพร้อมๆกับความสุข เพราะทีมบอลสุดโปรด สามารถเอาชนะคู่แข่งไปได้อย่าง สวยสด..งดงาม..แล้ว บรรยากาศยามเช้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเมื่อเหลือบไปมองอุณภูมิฯ ที่รายงานแบบรายชั่วโมงแล้ว ก็พบว่า หล่นลงมาเหลือเพียงแค่ 11 องศาฯ ยิ่งทำให้ต้องรีบผละออกจากเตียงนอน และห้องที่แสนอบอุ่น ออกมาสัมผัสกับความหนาวเย็นที่เผชิญหน้าอยู่ด้านนอก แต่แล้วก็ไม่ผิดหวังตามคาด เพราะอากาศยามเช้าที่นี่..เรียกได้ว่าเย็นสดชื่น แถมบริสุทธิ์ ไร้ฝุ่นละออง กันเลยทีเดียว แถมมาทริปนี้..ถือว่ามีความสุข 2 เด้ง ไปเลยก็ว่าได้ดังนั้น เช้านี้จึงไปเสาะแสวงหาผู้ดูแล "ม่อนจาวดอย" มานำเสนอให้กับผู้ที่รักธรรมชาติได้ติดตามกันครับ..เธอผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นอดีตนักศึกษา มช. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เข้ามาใช้ประโยชน์ในผืนดินของบรรพบุรุษ ในการก่อร่างสร้างตัวอย่างน่าเอาเยี่ยงอย่าง

นฤมล นทีไพรวัลย์ หรือน้องมล เล่าว่า ในอดีตพื้นที่แถวม่อนจาวดอย หมูบ้านหนองหอยเก่า ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ถือว่าทุรกันดารมาก สมัยคุณพ่อคุณแม่ เวลาจะเข้าไปในเมืองจะต้องออกเดินทางจากบ้านกันตั้งแต่เช้า กว่าจะถึงก็โน้นละคะ เย็นๆ ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้คนในชุมชนเริ่มมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จะต้องเดินทางไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาล น้องมล พูดไปแถมยิ้มอย่างเป็นกันเอง
ครับ..นี่คือเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ของ "น้องมล อดีตนักศึกษา มช." ที่ผันตัวเองเข้ามาเป็นช้างเท้าหน้าให้กับธุรกิจ หากท่านใดมีโอกาสก็แวะมาสัมผัส..ความหนาวเย็นกันได้..นะครับ
...คราวหน้า..ถ้ามีวันหยุดยาว จะรายงานสถานที่พัก และแหล่งท่องเที่ยว ให้ได้รับชมรับฟังกันอีกนะครับ..!