"Arles" เป็นเมืองมรดกโลกที่ทางใต้สุดของฝรั่งเศสและเป็นเมืองสำคัญทางด้านศิลปะ เพราะ "Vincentvan Gogh" ได้สร้างผลงานชั้นยอดที่นี่จำนวนมากเป็นภาพเขียน 200ภาพ ภาพสเก็ตช์และภาพสีน้ำอีกกว่า 100 ภาพโดยใช้สีเหลือง สีน้ำเงินเข้ม และสีม่วงอ่อนเป็นหลัก
พอเรือเทียบท่าที่เมือง Arlesความรู้สึกราวกับว่าเมืองนี้ถูกฉาบทับด้วยสีน้ำเงินและสีเหลืองจากลายเส้นภู่กันของ "Van Gogh" เพราะก่อนถึงเมืองนี้เราได้เปิดดูรูปของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้เราจำโทนสีของภาพนั้นมาผสมกับสถาณการณ์จริง
"StarryNight Over the Rhone" คือสถานที่แรกที่เราได้เห็น แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป
แต่ โค้งน้ำที่ทอดยาวยังแป๊ะเหมือนจับวาง แต่เสียดายที่เรามาช่วงกลางวัลจึงไม่มีดางดาวสีเหลืองสกาวกลางท้องฟ้า ดั่งเช่นภาพวาดของแวนโก๊ะริมน้ำตรงนี้เหมือนเป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองเป็นบรรยากาศที่สบายตา และถ้ามองภาพวาดของแวนโก๊ะ ไปด้วยแล้วก็สบายใจไม่ใช่น้อย
"The Yellow House" สถานที่อาศัยของ"แวนโก๊ะ"ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานมากมายเช่น ภาพ Van Goghs Chair, Bedroom in Arlesและที่นี่เองก็ยังใช้เป็นที่โชว์ผลงานที่รวบรวมไว้เยอะมากๆ ภาพเขียนชุดนี้เรียกกันว่าDcoration for the Yellow House ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่ทะเยอทะยานที่สุดในชีวิตของแวนโก๊ะ
เพื่อรอต้อนรับเพื่อนศิลปินที่ชื่อว่า"โกแก็ง"
"Caf Terrace at Night" ค่าเฟ่สีเหลืองที่ซ่อนอยู่ในซอยแต่ก็ยังโดดเด่นด้วยสีเหลืองสะดุดตา ถ้านับตั้งแต่ปี 1888 สีก็ไม่น่าสดขนาดนี้แต่จากการสอบถามก็คือ เจ้าของร้านจะยังคอยทาสีให้คงอยู่ดั่งรูปตามเดิม
และที่นั่งภายในร้านก็มักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยากจะดื่มด่ำกับกลิ่นกาแฟพร้อมๆกับสถานที่ในประวัติศาสตร์ แต่ก็มีตลกร้ายตรงที่ ... จริงๆแล้งแวนโก๊ะอาจจะนั่งร้านข้างๆเพราะเป็นวิวที่มองเข้ามาจากร้านอื่น แฮร่ !
"The Courtyardof the Hospital atArles" โรงพยาบาลที่พำนักรักษาตัวของแวนโก๊ะที่เมื่อเราก้าวเท้าเข้าไปก็ยังสถานที่ก็จะยังเห็นสวนดอกไม้ตามแบบในภาพวาดแป๊ะน่าทึ่งนะที่เขาก็พยายามรักษษาทุกอย่างให้คงที่แถมมีเขียนอธิบายในทุกสถานที่ที่มีประวัติเลยน่ารักจริงๆ
***นอกเหนือจากการตามหาสถานที่ในภาพวาดของฝีมือศิลปินเอกของโลกแล้วระหว่างทางที่เราได้สัมผัสกับเมืองนี้ก็น่าทึ่งหลายอย่างมีประวัติศาสตร์มากมายกระจายอยู่ทุกพื้นที่
อย่างAmphitheatre dArles หรือRoman arena หรือโรงละครที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศักราชที่80 ว่ากันว่าเมื่อครั้งที่อาร์ลส์ถูกภัยสงครามรุกรานชาวเมืองต้องเข้ามาหลบภัยกันที่นี่ ใรเห็นก็ว่าคุ้นตาคล้ายกับที่กรุงโรม ใช่ค่ะเพราะที่นี่ใช้ช่างชุดเดียวกันกับที่ โรม แต่ที่นี่ใช้เวลาสร้างน้อยกว่า เพียง 10ปี เท่านั้นเนื่องจากที่นี่ใช้หินที่มีขนาดใหญ่กว่า และเป็นหินปูนต่างจากที่โรมที่ใช้หินอ่อน ในสมัยก่อนใช้เพื่อการต่อสู้ของนักรบเป็นเกมส์กีฬา แต่บางคู่ก็เอากันถึงตายเลยนะเพราะชนชั้นทาสถ้าสู้ชนะก็จะรอดและในปัจจุบันใช้เป็นที่สู้วัวกระทิงที่จัดขึ้นในฤดูร้อนของทุกปี
และยังมีของเก่ากว่านั้นจะเห็นว่าเป็นtheatre รูปครึ่งวงกลม สร้างก่อน Amphitheatre กว่า 200 ปีแต่พอถึงยุครุ่งเรื่องแล้วมีผ็ชมเยอะก็เลยต้องขยายและย้ายพื้นที่ไป Amphitheatreที่ใหญ่และอลังการกว่าม๊ากกกกก
มาถึงเมืองแล้วก็อย่าลืมแวะที่จตุรัสกลางเมืองที่มีทั้งหอนาฬิกา ศาลาว่าการของเมือง และยังมีโบสถ์แซงค์โทรแปงค์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ คศ. ที่ 3ภายในโบสถ์สวยงามและยังคงความเก่าดั้งเดิมไว้ได้ครบถ้วนมากๆ
ยังมีเมืองริมโรนที่น่ารักแบบนี้อีกใน EP.4
ติดตาม ซี่รี่ แม่น้ำโรน ได้ที่นี่..
EP1 :ล่องแม่น้ำ RHONEแบบไม่ Alone
http://www.nationtv.tv/main/content/378670295/
EP:2 ชมเมืองเก่า "Viviers" พร้อมคลอเคลียมรดกโลก
http://www.nationtv.tv/main/content/378672359/เรื่องเที่ยวไว้ใจเฟรม ไปคุยกันต่อได้ที่facebook : oneway with famframeIG : famframe