svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

KTAM ตั้งเป้าปีนี้โต 10% เน้นลงทุนดัชนี ตปท.

21 มกราคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด? (มหาชน) แถลงผลประกอบการประจำปี 2561 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) เพิ่มขึ้น 8.7% ตั้งเป้าปี 2562 โตอีก 10% เน้นลงทุนในดัชนีต่างประเทศ

กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน? กรุงไทย? จำกัด? (มหาชน)? หรือ KTAM ชวินดา หาญรัตนกูล บอกว่า บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ณ  วันที่ 28 ธันวาคม 2561 อยู่ที่ 776,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62,135 ล้านบาท หรือประมาณ 8.7% อัตรสการเติบโตสูงกว่าอุสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 3.4% มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน มี AMU อยู่ที่ 109,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6% จากกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือ (Thailand future fund - TFFIF) และบริษัทเป็นทรัสตี ให้ทรัสต์เพื่อการลงทุน ในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์  1 กองทุนสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อยู่ที่ 99,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับความไว้วางใจ ให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของกลุ่มบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบมจ.ท่าอากาศยานไทย ส่วนกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 71,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.3% ส่วนกองทุนรวมลดลงเล็กน้อยประมาณ 0.4% จากภาวะความผันผวน ของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านกองทุนรวมระยะยาว (LTF) อัตราการเติบโตใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม อยู่ที่ 3.8% กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RTF) เพิ่มขึ้น 3.4% สูงกว่าอุตสากรรมซึ่งอยู่ที่ 2.5% กองทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น 22.2% ในขณะที่อุตสาหกรรมติดลบ 4.3% ส่วนในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของ AMU ไว้ที่ 878,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 10%กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน? กรุงไทย? จำกัด? (มหาชน) บอกอีกว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายกองทุนใหม่ที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่นกองทุนเปิดกรุงไทย strategic Active Global allocation (KT-SAGA) ในช่วง กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เน้นลงทุนแบบ fund of fund ผ่านกองทุนรวม etf ต่างประเทศ เป็นหลักตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยกองทุนจะลงทุนในดัชนีต่างประเทศ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ / REITs ทองคำและน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์นักลงทุนทั่วไป ที่ต้องการ โอกาสเข้าถึงการลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก ผ่านการเลือกลงทุนใน etf ตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนง่ายต่อนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามการลงทุนในต่างประเทศด้วยตัวเองและเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง ไปยังต่างประเทศและต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า Benchmark ในระยะกลางถึงยาวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขออนุมัติจัดตั้งกองทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกองทุนโดยคาดว่าในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 กองทุน

logoline