อุ่นไอรัก คลายความหนาวฯ ปีที่ 2 เทศกาลแห่งความสุขของคนทั้งมวล

อย่างแรกคือ ไปงานนี้ ทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นไทยในแบบย้อนยุค เหมือนนั่งไทม์แมชชีนของโดราเอมอนย้อนเวลากลับไปในอดีตสมัย ร.5 เมื่อกว่า 120 ปีที่แล้ว ได้มาเห็นผู้คนใส่เสื้อผ้าชุดไทยโบราณสวยงามตระการตามากมาย ทั้งชายและหญิง รวมถึงตัวเราเองด้วย 55

เริ่มต้นที่จุดรวมพลตรงหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ที่เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรืองของสยามประเทศที่เชื่อมโยงกับสายน้ำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีมุมให้เราได้ถ่ายรูปสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองพระที่นั่งกลางน้ำ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เรือพระที่นั่ง และรูปแบบอาคารบ้านเรือน ตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มาจนถึงยุคไทยร่วมสมัยในปัจจุบัน

ส่วนภายในบริเวณสนามเสือป่า ติดกับพระลานพระราชวังดุสิต เป็นพื้นที่การออกร้านจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาไทยที่คลาสสิคสวยงามล้ำค่าน่าสนใจ ทั้งร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และจากองค์กรห้างร้านต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่พร้อมใจกันมาออกร้านจัดแสดง และจำหน่ายสินค้ากันในหลายรูปแบบ

ทุกร้านค้า หรือเกือบจะเรียกได้ว่าแทบทุกมุมภายในงานอุ่นไอรักฯ ก็มักจะต้องมีมุมคลาสสิคย้อนยุคสวยงามชวนให้ต้องถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก ส่งไปอวดโชว์กันทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อจะได้คุยให้เพื่อนๆได้เห็นว่า ฉันมางานนี้แล้วนะเฟ้ย !

ยิ่งเรื่องอาหารการกิน ก็ต้องขอบอกว่า ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะงานนี้เขาจัดเต็มไปด้วยอาหารเมนูเด็ดตำรับชาววัง และของหากินยาก ไม่มีที่ไหน นอกจากในงานนี้ที่เดียว รวมไปถึงอาหารเมนูเด็ดทั่วไปอย่างข้าวเหนียว หมูทอด และก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็มีให้ได้ฝากท้องกันอย่างอร่อยเหาะ

งานนี้ ใครใคร่เดิน..เดิน ใคร่ใคร่เข็น..ก็เข็นรถเข็นไปได้ทั่วทั้งงาน เพราะเขามีอารยสถาปัตย์ มี Friendly Design ที่จัดให้พร้อมรองรับมนุษย์ล้อ หรือคนที่ใช้รถเข็น ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้สุขภาพไม่แข็งแรง ไปจนถึงครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่ต้องใช้รถเข็นเด็ก ก็สามารถมาเที่ยวชมงานอุ่นไอรักฯได้ สะดวก สบาย ปลอดภัย

ด้วยอารยสถาปัตย์ต่างๆ ทั้งทางลาดที่มีหลายจุด เชื่อมโยงไปได้ทั่วบริเวณงาน รวมถึงห้องสุขา ก็มีรถสุขาของกรุงเทพมหานคร ที่มีห้องสุขาอารยสถาปัตย์เคลื่อนที่มาคอยให้บริการคนที่ใช้รถเข็นในบริเวณงาน

จะว่าไปแล้ว งานอุ่นไอรัก คลายความหนาวฯ เคยมีมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปีพุทธศักราช 2443 ที่ ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงานฤดูหนาวขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้สมทบทุนก่อสร้างวัดเบญจมบพิตร โดยมีการออกร้านของพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้านายฝ่ายหน้าและฝ่ายใน รวมทั้งข้าราชการ บริษัทห้างร้านต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร ตลอดจนมหรสพแบบราชสำนัก

จากงานฤดูหนาวสมัย ร.5 ในครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานความสุขแก่ประชาชน จึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานในรูปแบบของงานฤดูหนาวสมัย ร.5 เพื่อหวนรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆของงานฤดูหนาวยุค ร.5 ที่สะท้อนความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมและศิลปะแบบไทยๆ ในชื่องาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรก เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

มาถึงปีนี้ ได้มีการจัดงานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในชื่อ "อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์" เปิดให้เที่ยวชมกันมาตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ปีที่แล้ว และจะเปิดให้เที่ยวชมกันไปจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า

ใครที่ยังไม่ได้ไป ก็ขอให้ได้ไป ส่วนใครที่ได้ไปแล้ว ก็ขอให้ได้ไปอีก เพราะงานนี้ ทุกคนที่ได้ไปเที่ยวชม ล้วนมีรอยยิ้ม มีความสุข และมีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ที่มีสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ และเสริมสร้างความสุขให้แก่คนทั้งมวล