รอ3ปี รถไฟฟ้าสร้างเสร็จ หมดปัญหาฝุ่นพิษ ตายก่อน

พื้นที่ ที่มีมลพิษฝุ่นสูงสุด เป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพมหานครตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ที่บริเวณถนนลาดพร้าว จนถึงเวลาลานี้ ยังต้องเผชิญกับมลพิษที่อยู่ในเกณฑ์เริ่มกระทบสุขภาพของประชาชน ระดับสีส้ม แม้ว่าในพื้นที่อื่นๆจะลดลงแล้วก็ตาม โดยมลพิษฝุ่นที่เขตลาดพร้าว มีสถานีตรวจวัด 2 จุด  จุดแรก แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง วานนี้(16ม.ค.)  PM 2.5 อยู่ที่ 56 วันนี้ลดลงมาอยู่ที่ 53  ส่วน ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง วานนี้อยู่ที่ 55 เช้านี้ลดลงมาอยู่ที่ 52   สถานการณ์เริ่มดีขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ทองฟ้า ปลอดโปร่งมองเห็นทัศนวิสัย ได้ดีขึ้น ลมแรงขึ้น

  ปัญหาหลัก รถติดนานๆ ปล่อยมลพิษมาก การก่อสร้างรถไฟฟ้า แม่ค้าขายของ สะท้อนว่า สำนักงานเขต มาฉีดพ่นน้ำ แต่ไม่ได้ล้าง ถนนยังคงสกปรก และ มีฝุ่นดิน เป็นคราบหนา  พอเกิดแห้งฝุ่น ก็กลับมาฟุ้งเหมือนเดิม   ต้องใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกวัน การฉีดน้ำ ช่วยได้แค่แป๊บเดียว พอแห้งฝุ่นก็ฟุ้งกระจายอีก แต่ก็เข้าใจเพราะอยุ่ในช่วงการก่อสร้าง แต่หากจะต้องให้รอถึง 3 ปี รถไฟฟ้าสร้างเสร็จ จะหมดปัญหามลพิษฝุ่น แม่ค้าบอกว่ารอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็ต้องรอ รอไม่ได้ก็ ....ตายก่อน ....

รุ่งโรจน์ ชาวลาดพร้าว วัย 72 ปี  บอกว่า มาตรการในการแก่้ปัญหา ทั้งเรื่องการจำกัดปริมาณรถยนต์ เข้า กทม.ชั้นใน มาตรการใช้วันคู่ วันคี่ หรือ เก็บเงินค่าเข้าเมือง เห็นว่าเป็นมาตราการที่น่าจะทำได้ยาก แต่หากวิกฤติก็ต้องปฏิบัติตาม แต่เห็นว่าควรจะไปเข้มงวดตรวจจับรถที่เกิดควันดำ เพราะหากเข้มงวดจริง น่าจะลดปริมาณมลพิษจำนวนมาก จะให้รอ3ปี แล้วจะดีขึ้น สงสัยจะตายก่อน

ส่วนเรื่องการทำงานที่บ้าน หลายคน  ถือเป็นแนวคิดที่ดี สำหรับอาชีพที่ทำงานที่บ้านได้  มีการประเมินว่า พื้นที่ถนนลาดพร้าว จะตัองเผชิญมลพิษฝุ่นไปอีกนาน เพราะยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งนับว่าเป็นถนนที่รถติดมากเป็นอันดับ1 ของกรุงเทพมหานคร มลพิษเขตนี้ จึงสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากรถบรรทุกต่างๆที่วิ่งตามถนนลาดพร้าว ประดิษฐ์มนูธรรม รามอินทรา จึงก่อให้เกิดมลพิษ ประกอบกับการสร้างรถไฟฟ้าตลอดเส้นทาง ชาวลาดพร้าว ยังต้องเผชิญกับฝุ่นที่คุกคามอย่างหนัก..ไปอีกนานหากมตราการที่ใช้ยังแค่บรรเทาผลกระทบเบื้องต้น