เจ้าพ่ออเมซอน หย่าเมียจะแบ่งสมบัติลงตัวหรือ

เจฟฟ์ เบซอส เจ้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลก วัย 49 ปี กับแมคเคนซี ภรรยาวัย 48 ปี ประกาศแยกทางเมื่อวันพุธ หลังอยู่กินกันมานาน 25 ปี ทำให้สื่อพุ่งเป้าสนใจไปที่ทรัพย์สินมูลค่า 1.37 แสนล้านดอลลาร์หรือราว 4.35 ล้านล้านบาทของเบซอสว่าจะแบ่งกันอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ของโลก และอำนาจการบริหารบริษัทของเขาหรือไม่
เวบไซต์ข่าวซุบซิบคนดัง TMZ (ทีเอ็มซี) รายงานว่า สามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้ทำสัญญาก่อนการสมรส ทำให้จะต้องมีการแบ่งสินสมรสของเจฟฟ์เมื่อมีการหย่าร้างทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันในรัฐฟลอริดาเมื่อเดือน ก.ย.2536 แต่ที่อยู่ล่าสุดของทั้งสองคนจะเป็นตัวกำหนดรายละเอียดของกระบวนการหย่าร้างทั้งคู่มีคฤหาสน์หลายแห่งทั้งในเมืองซีแอตเติล ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท อเมซอน รวมถึงในกรุงวอชิงตันดีซี, รัฐเท็กซัส, และย่านเบเวอร์รี ฮิลลส์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

แต่ปัจจุบันพวกเขาอาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งรัฐนี้กำหนดว่าจะต้องแบ่งสินสมรสกัน 50-50อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทั้งคู่จะจดทะเบียนหย่าในรัฐอื่นหรือไม่ และหากแบ่งสมบัติเท่ากัน อาจมีผลต่ออันดับมหาเศรษฐีของโลกด้วย
ปัจจุบันเบซอสยังคงถือหุ้นมากที่สุดในอเมซอน 16.3% และเมื่อประเมินตามราคาในตลาดหุ้นเมื่อวานมีมูลค่าราว 1.36 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งหากต้องแบ่งหุ้นกันคนละครึ่ง ก็จะทำให้เบซอสเหลือหุ้นเพียง 8% จะกระทบต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่การแยกทางโดยสองคนบอกว่ายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทำให้เป็นไปได้ว่าทั้งคู่อาจโอนหุ้นไปอยู่ในรูปของทรัสต์ หรือกลไกทางกฎหมายอื่น เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจเดิมในกลุ่มผู้ถือหุ้น
นักกฎหมายคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า ทั้งสองควรเจรจาให้ได้ข้อตกลงร่วมกันเรื่องการแบ่งสินสมรส แทนที่จะต้องสูญเงินก้อนโตให้กับทนายความในการสู้คดี นอกจากนี้นักวิเคราะห์ มองว่า ทีมกฎหมายแมคเคนซีอาจแนะนำเธอว่า อย่าพยายามใช้อำนาจจากการถือหุ้นใหญ่เพื่อควบคุมอเมซอน และคาดว่า แมคเคนซีอาจได้รับทรัพย์สินมากกว่าที่ใครจะคาดคิดเพื่อแลกกับการที่เธอให้ความร่วมมืออย่างดีกับการแบ่งสินสมรสครั้งนี้