เมื่อวันที่ 2 มกราคม 62 หลังจากที่ศาลเจ้าพ่อแบงค์กาโม่ย้ายจากที่ตั้งเดิม ริมถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 186-187 ข้างกำแพงสนามบิน อู่ตะเภา อันโด่งดัง ซึ่งมีนักแสวงโชคต่างเดินทางมาขอโชคลาภ ตามความเชื่อ ความศรัทธา และกระแสจากสื่อโซเชียล และเคยเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนกัน เนื่องจาก สถานที่ตั้งอยู่ริมถนน ที่มีรถสัญจรผ่านตลอดเวลา ต่อมากรมทางหลวงได้ ติดประกาศ พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 ห้ามกระทำการใดๆ บนไหล่ทาง
ทำให้ มีคนที่เชื่อถือ ได้มาขออนุญาต พระครูไพศาล ศิลวัตร เจ้าอาวาสวัดคลองบางไผ่ ขอย้ายศาลมาตั้งไว้ภายในรั้ววัดคลองบางไผ่ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่ตั้งเดิม เป็นการชั่วคราว ซึ่งเจ้าอาวาสวัด จำต้องแบ่งรับแบ่งสู้ ให้มาตั้งภายในวัด เพราะเป็นความเชื่อ ความศรัทธา เป็นที่พึ่งยามยากของชาวบ้าน และที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุ เพราะศาลเดิม ตั้งอยู่ริมถนน ที่ผ่านมา ก็เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง จึงได้อนุญาติ แต่ย้ำว่า หากเกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีการหลอกลวง สร้างความเดือดร้อน กับนักเรียนช่วงเปิดเทอม มีผู้แสวงหาผลประโยชน์ จะต้องออกจากวัดทันที
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 2 ม.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บ้านฉาง นำโดยนายเชาวลิต ร่มรื่น กำนันตำบลสำนักท้อน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลสำนักท้อน เดินทาง เข้าตรวจสอบ ที่ตั้งศาล หลังจาก มีชาวบ้าน แจ้งว่า ได้มีการการย้ายศาลเข้ามาตั้งที่วัด โดยระหว่าง ที่ศาล ตั้งอยู่ในวัด เพียงไม่กี่วัน ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเพราะเป็นช่วงเปิดเรียน การจราจร ติดขัด มีการตั้งร้านขายชุดเซ่นไหว้ มีร่างทรงใบ้หวย ให้กับนักเสี่ยงโชค
นายเชาวลิต ร่มรื่น กล่าวว่า สาเหตุที่ ต้องมา ตรวจสอบ เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า อาจมีการแสวงหาผลประโยชน์ ของกลุ่มคน บางกลุ่ม และก่อให้เกิดความวุ่นวาย ต่อโรงเรียน และวัด ซึ่งต้องการความเงียบ สงบ จึงเห็นสมควรนำศาลเจ้าพ่อแบงค์กาโม่ไปตั้งที่ โค้งเขาแขก ริมถนนสุขุมวิท กม.8 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ห่างจากจุดเดิม 9 กม. ซึ่งชาวบ้านเล่าว่า สถานที่นี้ ในอดีตเคยใช้ประหาร นายแขก ชาวจังหวัดเพชรบุรี ผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์ชาวต่างชาติ ในปี พ.ศ.2516 2517 ซึ่งชาวบ้านล่ำลือถึงความเฮี้ยนมีคนพบเห็นวิญญาณบ่อยครั้ง จึงได้มีการตั้งศาลไว้ให้กราบไหว้ จนถึงปัจจุบัน