ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งคนยัง ไม่ค่อยรู้จัก แม้จะอยู่ห่างจากตัว เมืองอำนาจ เจริญ ไปเพียง 25 กิ โล เมตร เท่านั้น ตามเส้นทางถนน ดอนหวาย-ชานุมาน จากป้ายบอกทาง เข้าภูพนมดี สู่ถนนลูกรังคับ แคบ รถยนต์ แล่นสวนกัน ไม่ ได้ ต้องขับ เลาะสวนยางพารา ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ที่ปลูกอยู่ 2 ข้างทาง ก็จะ เห็น เจดีย์หินพันล้านก้อนตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา
ซึ่งที่นี่ เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ภูพนมดี บ้านนาอุดม ตำบลหนอง ไฮ อำ เภอ เสนางคนิคม จังหวัดอำนาจ เจริญ มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ไม่มากนัก ศาลา แบบเก่า ตั้งอยู่บนลานหิน ท่ามกลาง แมก ไม้ที่ผลิดอกออก ใบสวยงาม เขียวขจี ในช่วงฤดูฝน และสงบร่มรื่นมาก ครั้นเมื่อยืนอยู่บนยอดภูเขาพนมดี สายลมพัดเย็นสบายแสงแดดไม่แรงนักเมื่อสาดส่องผ่านทิวไม้อันร่มรื่น จึงเหมาะในการเดินเขาท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่โดยรอบปกคลุมด้วยใบไม้ ร่มรื่น ยิ่งนัก พร้อม สัมผัสแมกไม้นาๆพันธุ์ ก็จะทำให้จิตใจสดชื่น
สำหรับ ภูพนมดีอยู่ในแนวเทือกเขาภูพาน เดิมมีชื่อเรียกว่า ภูแม่หม้าย เนื่องจากบริเวณภูเขาแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก เป็นแหล่งอาหารชาวบ้าน มักจะเข้ามาล่าสัตว์และตัดต้นไม้ทำบ้านเรือนเป็นประจำ โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่เข้ามาล่าสัตว์และตัดต้นไม้ จะเกิดอาถรรพ์ทำให้ล้มป่วยเสียชีวิต ทำให้ภรรยาขาดสามีทำให้เป็นหม้ายทั้งหมู่บ้าน จึงถูกเรียกว่า ภูแม่หม้าย
โดยเชื่อว่า เจ้าป่า เจ้าเขา ที่ปกป้องผืนป่าแห่งนี้แสดงอิทธิฤทธิ์ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปตัดไม้ทำลายป่ากระทั่งปัจจุบัน ต่อมา มีพระกรรมฐานผ่านมาและได้ปักกรดปฏิบัติธรรม เมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้เปลี่ยนชื่อจากภูแม่หม้าย เป็น ภูพนมดี เพื่อเป็นสิริมงคล แต่ทางราชการเรียกว่า ภูผาดี ซึ่งพื้นที่โดยรอบของภูพนมดี ประกอบด้วย
1. ผาดี หน้าผาชมธรรมชาติ
2. หนองหมาจอก
3. ผากล้วยไม้
4. ป้อมฝรั่งเศส
5. ถ้ำเกีย(ค้างคาว)
6.ถ้ำปู่อังคฮาด
7. ถ้ำแสงแก้ว
8.เจดีย์หินพันล้านก้อน
9.เรือสำเภาราชสีห์
10.พระศรีรัตนตรัยรัตน์
ส่วนประวัติการก่อสร้างเจดีย์หินพันล้านก้อนนั้น มีการเล่าขานสู่กันฟังมาว่า ในวันเพ็ญ 15 ค่ำ ชาว ต.หนองไฮ ห่างจากภูพนมดีประมาณ 5 กิโลเมตร มักจะเห็นปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งชาวบ้านจะพบเห็นลำแสงสีเขียวพาดผ่านถ้ำปู่อัคฮาดไปยังถ้ำแสงแก้ว และเชื่อว่า ปู่อัคคฮานแสดงปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นผู้ปกป้องรักษาบริเวณพื้นป่าและเทือกเขาแห่งนี้
ต่อมา พ.ศ.2530 พระอาจารย์ปัญญา จากวัดสุปัฏวนารามวรวิหาร จ.อุบลราชธานี ได้มาปฏิบัติธรรม ร่วมกับพระอาจารย์เพียว พระอาจารย์โจ ระหว่างวิปัสสนากรรมฐาน พระอาจารย์ปัญญา นิมิตอัศจรรย์ขึ้น ซึ่งเหล่าเทวดา ต้องการให้สร้างสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงนำเรื่องไปปรึกษาญาติโยม จึงให้สร้างสิ่งมงคลสำหรับกราบไหว้บูชา และควรสร้างเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจด้วย
กระทั่งปี พ.ศ.2529 คณะสงฆ์และชาวบ้าน ต.หนองไฮ ร่วมกันดำเนินการก่อสร้าง พระพุทธรูปปางมารวิชัย สีขาวทั้งองค์ บนหน้าผา ชื่อว่า พระศรีรัตนตรัยรัตน์ และสร้างบันได 245 ขั้น เพื่อเป็นทางขึ้นลงของพระสงฆ์และพุทธศาสกนิชน ครั้นในปี 2542 ต่อมากว่า 10 ปี พระอาจารย์ปัญญา เจ้าอาวาสองค์แรก ร่วมกับชาวบ้าน ก่อสร้างเจดีย์ทำจากหินภูเขาสีขาว ที่ชาวบ้านคัดแยกขนาดตามต้องการ ติดกับโครงสร้างรูปร่างเจดีย์นับพันนับล้านก้อนกลายเป็นรูปร่างเจดีย์หินพันล้านก้อน มีความสูง 30 เมตร ฐานกว้าง 20 เมตร
ซึ่งภายในเจดีย์เป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรมประกอบพิธีทางศาสนา และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชั้นนำที่มรณภาพไปแล้ว เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ชา เป็นต้น และภาพเขียนประวัติพระพุทธเจ้าอย่างสวยงาม อย่างที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน สำหรับเรือสำเภาราชสีห์ อยู่ห่างจากเจดีย์ ประมาณ 20 เมตร เดิมสร้างเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ มีลักษณะเป็นรูปเรือสำเภา หัวเป็นราชสีห์ กลางเรือ ภาพแกะสลักรูปพระนอนทอดยาวไปตามเรือสำเภาอย่างสวยงาม ซึ่งเรือสำเภาราชสีห์สร้างเสร็จ เมื่อปี2547 ใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ชาวบ้านนาอุดม ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ จะจัดงานบุญข้าวจี่ ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเวลากว่า 100 ปี ด้วยการปิ้งข้าวจี่ถวายพระสงฆ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวและเชื่อว่าจะได้กุศลแรง