ส่วนการขยายมายังธุรกิจ เสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น ของบริษัทกูดติ้ง1209จำกัด เป็นผลพวงจากธุรกิจนำเข้าสินค้ามือสองจากญี่ปุ่น ที่สร้างความเชื่อมั่นกับคู่ค้าจนได้สิทธิ์จากเว็บไซต์ จำหน่ายสินค้าเสื้อผ้ามือสองชื่อดังของญี่ปุ่น อย่าง ZOZOให้สามารถใช้ชื่อ ZOZO BY EMMY ได้ จนพัฒนามาเป็น " โซโซ บาย เอ็มมี่" ทั้งนี้รูปแบบธุรกิจเสื้อผ้ามือสองของ " โซโซ บาย เอ็มมี่" เป็นการสร้างความต่าง เพราะลูกค้าจะได้สัมผัสกับสินค้าเสื้อผ้ามือสองในแบบมาตรฐานที่คนญี่ปุ่นนิยม
ความแตกต่างของเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น กับเสื้อผ้ามือสองที่ขายกันทั่วไป ก็คือเสื้อผ้าทุกชิ้นจะถูกคัดเลือกและทำความสะอาดในแบบมาตรฐานที่คนญี่ปุ่นซื้อใส่ ทุกอย่างออกมาจากโรงงานที่ผ่านกระบวนการซัก ฆ่าเชื้อโรค รีดเรียบและบรรจุลงในถุง พร้อมติดบาร์โค้ด เหมือนกับเสื้อผ้าใหม่ หลังจากนั้นนำแพคลงในกล่อง พร้อมจำหน่ายและจัดส่งให้กับลูกค้า ถือเป็นการลบภาพเสื้อผ้ากระสอบ ลูกค้าที่ซื้อไปสามารถใส่ได้เลย โดยไม่ต้องไปทำความสะอาดใหม่ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อโรค หรือ ฝุ่นที่ติดมากับชุดและสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น คือ คนญี่ปุ่นจะใส่เสื้อผ้าค่อนข้างทะนุถนอม เพื่อที่จะได้นำมาขายต่อเป็นเสื้อผ้ามือสอง
ทั้งนี้จากการที่เสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น ผ่านการทำความสะอาดมาแล้วบรรจุในถุงและใส่ลงในกล่อง เหมือนกับเสื้อผ้าใหม่ทำให้
เสื้อผ้ามือสองของ "โซโซ บาย เอมมี่" จึงเป็น "งานกล่อง " ไม่ใช่งานกระสอบ สิ่งสำคัญคือตั้งราคาขายในราคาเสื้อกระสอบตัวละ 35 บาท แต่ลูกค้าจะต้องซื้อขั้นต่ำ 1,000 ตัว เป็นการคละแบบคละไซส์ ที่มั่นใจได้คือทุกจะไม่มีเสื้อผ้าในแบบที่ซ้ำกันเลย ทำให้ลูกค้าที่ซื้อเพื่อนำไปขายต่อสามารถทำราคาได้ เพราะไม่ต้องกลัวว่า แบบจะไปซ้ำ สำหรับเสื้อผ้ามือสอง โซโซ บาย เอ็มมี่ เป็นของผู้หญิงทุกวัย ชุดทำงานเสื้อสูท ชุดกระโปรงรวมไปถึงชุดเสื้อผ้ากันหนาว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจของบริษัท กูดติ้ง 1209 จำกัด ขับเคลื่อนผ่าน Facebook fanpage : ZOZO by EMMY