เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 61พันตำรวจโทสามารถ ไชยณรงค์ ผอ.ป.ป.ท. เขต3 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนศรแก้ววิทยา จ.ยโสธร ใส่ชื่อนักเรียนที่ไม่มีอยู่จริงเพิ่มเข้าไปในบัญชีรายชื่อนักเรียน เพื่ออัพเกรดจากโรงเรียนขนาดเล็ก เป็นโรงเรียนขนาดกลาง ทำให้ผู้อำนวยการได้รับการโยกย้ายไปอยู่โรงเรียนยโสธรพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบรายชื่อนักเรียน โรงเรียนศรแก้ววิทยาเพิ่มเติม พบว่า นักเรียนที่มีอยู่จริง มีเพียง 443 คน ถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนไม่เกิน 499 คน จึงยังไม่เข้าเกณฑ์เป็นโรงเรียนขนาดกลาง ที่ต้องมีจำนวนนักเรียนระหว่าง 500-1,499 คนแต่พบว่ามีการเพิ่มรายชื่อนักเรียนที่ไม่มีอยู่จริงเข้ามาในบัญชีถึง 159 คน ทำให้อัพเกรดเป็นโรงเรียนขนาดกลางได้ และมีการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนยโสธรพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ที่มีนักเรียนมากกว่า 4,000 คน ย้ายข้ามขั้นโรงเรียนขนาดใหญ่ไป 1 ขั้น
อีกทั้งเมื่อตรวจสอบนักเรียนที่ไม่มีอยู่จริง พบว่าเป็นผู้มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป จนอายุสูงสุดมากถึง 55 ปีอยู่หลายคน ซึ่งทางโรงเรียนศรแก้ววิทยา อ้างว่าเป็นนักเรียนทางเลือก ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นหลักสูตรนักเรียนทางเลือกไม่มี และเมื่อไม่มีหลักสูตรก็ไม่สามารถออกวุฒิบัตรให้นักเรียนได้ ถ้าออกให้จะกลายเป็นวุฒิบัตรเถื่อนทันที ซึ่งนักเรียนที่มีอายุขนาดนี้ ควรไปเรียนในหลักสูตรของ กศน.มากกว่า
ดังนั้นการตรวจพบครั้งนี้จึงถือว่ามีเจตนากระทำความผิดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหลังจากนี้ ป.ป.ท.เขต3 ต้องทำการสืบสวน สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ทำคนเดียวแน่นอน ต้องทำกันเป็นกระบวนการ ถึงจะผ่านมาถึงขั้นนี้ได้ ส่วนโรงเรียนอื่นๆ กว่า 10 โรงเรียนในพื้นที่ภาคอีสานที่ได้รับการร้องเรียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งทาง ป.ป.ท.เขต3 จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเช่นกัน.