svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

23 ม.ค. 62 ตัดสิน "หนุ่มแมสเซ็นเจอร์" ชน นร.บนทางเท้า

29 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หนุ่มแมสฯให้รับสารภาพหลังอัยการยื่นฟ้องด้วยวาจาศาลแขวงพระนครเหนือ4ข้อหาขอศาลลงโทษสถานหนักเพื่อปรามขี่รถไม่คำนึงความปลอดภัยศาลสั่งสืบเสาะประวัติก่อนตัดสินปีหน้า

29 พ.ย.61-ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดา) ได้นำตัว นายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปี อาชีพรับ-ส่งเอกสาร (แมสเซ็นเจอร์) ที่ขี่รถจักรยานยนต์ชนเด็กนักเรียนหญิง โรงเรียนบดินทรเดชา 3 บนทางเท้าได้รับบาดเจ็บ มายื่นฟ้องด้วยวาจา เป็นจำเลย ภายหลังจากชั้นจับกุมสอบสวน นายภูวดล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย 

ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 , ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน , ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควร , ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 32 , 43 (4)(7)(8) , 157 , 160 รวม 4 ข้อหา

โดยระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 เวลากลางวัน จำเลยได้ขี่รถ จยย. ทะเบียน 6 กฎ 6283 กทม.ไปตาม ถ.ลาดพร้าว จากทาง ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าไปทาง ซ.ลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่ต้องมีตามวิสัย ซึ่งจำเลยได้ขี่รถมาตาม ถ.ลาดพร้าว ด้วยความเร็ว เมื่อไปถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปาก ซ.ลาดพร้าว 69 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง โดยถนนเส้นนั้นเป็นทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถไว้ 2 ช่อง และมีทางเท้าอยู่ด้วย แต่จำเลยกลับขี่รถขึ้นบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควรและขี่ด้วยความเร็วโดยไม่ให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัว อันเป็นการขี่รถโดยประมาทน่าหวาดเสียวที่อาจเกิดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สิน และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งขณะนั้นเด็กนักเรียน ผู้เสียหาย เดินอยู่บนทางเท้าบริเวณป้ายรถเมล์ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 69 ถูกเฉี่ยวชนอย่างแรงจนล้มลง ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพก และแผลถลอกที่บริเวณขาทั้งสองข้าง เหตุเกิดที่แขวงสะพานสูง เขตวังทองหลาง กทม. ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.61 เวลา 18.00 น. พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบ และยึดรถ จยย. คันเกิดเหตุ ไว้เป็นของกลาง ขณะที่ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และภายหลังเกิดเหตุจำเลยกับผู้เสียหายได้ตกลงชดใช้ค่าเสียหายแล้ว

ทั้งนี้ท้ายฟ้องอัยการ ยังระบุด้วยว่า การขี่รถ จยย. ของจำเลยเป็นการรบกวนความสงบสุข ความปลอดภัยของคนเดินเท้า และการกระทำผิดดังกล่าวเป็นภัยอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดและเพื่อคุ้มครองสังคมและสุจริตชน ขอให้ศาลงโทษจำเลยสถานหนักด้วย

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ 8112/2561 ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำสั่งให้ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติทำรายงานการสืบเสาะและพินิจ ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ-ภูมิหลังอายุ อาชีพของจำเลย สภาพความผิดพฤติการณ์แห่งคดี และเหตุอันควรปรานี กรณีการเยียวยาผู้เสียหาย สรุปเป็นรายงานสืบเสาะและพินิจส่งศาลประกอบการพิจารณาพิพากษาต่อไป ซึ่งกำหนดฟังคำพิพากษาวันที่ 23 ม.ค.62 เวลา 09.00 น. 

ซึ่งภายหลังยื่นฟ้อง "นายภูวดล" จำเลยก็ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปโดยไม่มีหลักประกัน โดยจะต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดของศาลดังล่าวต่อไป

logoline