svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์-สี จิ้นผิง นัดถกปัญหาสงครามากรค้าสหรัฐและจีน 1 ธ.ค. ในเวทีนอกรอบประชุม G-20

27 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์-สี จิ้นผิง นัดถกปัญหาสงครามากรค้าสหรัฐและจีนวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ในเวทีนอกรอบประชุม G-20 แต่ยังคงขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมด หากเจรจาการค้าล้มเหลว

ทรัมป์ยังแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อ GM ที่ประกาศปิดโรงงานในอเมริกาเหนือ และเตรียมปลดคนงานอีก 14,800 คน เพื่อการปรับลดต้นทุน และการปรับโครงสร้างการผลิตรถยนต์ โดยเรียกร้องให้ GM ถอนการผลิตในจีน แล้วหันกลับมาลงทุนเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ใหม่ในรัฐโอไฮโอ



1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะประชุมร่วมกันในนอกรอบการประชุมสุดยอด G-20 ที่อาร์เจนตินาวันเสาร์นี้ แต่ตลาดยังคงคาดว่า การพบประประชุมครั้งนี้ คงจะไม่ได้มาซึ่งทางออกในการแก้ปัญหาข้อพิพาททางการค้า หรือจะสามารถมีข้อตกลงสำหรับการยกดลิกภาษีที่เรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าระหว่างกันได้

ทั้ง 2 ผู้นำพร้อมที่จะประชุมร่วมกันในช่วงก่อนการประชุม G-20 ถึงแม้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะกล่าวถึงความต้องการให้มีการเปิดเจรจานี้มีการทำข้อตกลงทางการค้า แต่ยังคงขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมด หากเจรจาการค้าล้มเหลว



2. คำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เพื่อกดดันให้จีนยอมอ่อนข้อมากขึ้น โดยยังคงกล่าวโทษจีนดำเนินการค้าอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งหากทำข้อตกลงกันไม่ได้ ผู้นำสหรัฐก็พร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในมูลค่า 267,000 ล้านดอลลาร์ ที่อัตรา 10% หรืออาจจะเป็น 25%

โดยครอบคลุมสินค้านำเข้าจากจีนส่วนที่ยังไม่ถูกเก็บภาษี เช่น iPhone และแล็ปท็อป ซึ่งชาวอเมริกันที่ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับผลกระทบในที่สุด


ด้วยข้อกล่าวหาดังกล่าว สหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมาแล้ว 2 รอบ รอบแรกเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ในอัตราภาษี 25% และรอบที่ 2 เป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ที่อัตรา 10% และปรับขึ้นเป็น 25% ในวันที่ 1 มกราคม 2019 ขณะที่จีนได้เรียกเก็บภาษีเป็นมูลค่าเพียงครึ่งหนึ่งของมูลค่าภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน ในอัตรา 25% เพื่อตอบโต้การกล่าวหาว่าจีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีของสหรัฐ


3. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากฝ่ายจีน เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีวาระสำคัญที่การโน้มน้าวให้สหรัฐยอมระงับแผนปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่จะปรับขึ้นอีก 15% เป็น 25% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์าภยในต้นปีหน้านี้
แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของจีนและได้เรียกร้องให้ทางการจีนดำเนินการค้ากับสหรัฐอย่างเป็นธรรม พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐและจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน



4. ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกไม่พอใจกับการที่ General Motor (GM) ตัดสินใตปิดโรงงานผลืตรถยนต์หลายแห่งในสหรัฐและแคนาดา และเตรียมปลดคนงานอีก 14,800 คน โดยเรียกร้องให้ GM ถอนการผลิตในจีน แล้วหันกลับมาลงทุนเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ใหม่ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานที่จะถูกปิดในครั้งนี้ด้วย

โดยผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ทางการสหรัฐได้ช่วยเหลือ GM ให้พ้นจากวิกฤติ การที่ทาง GM ออกจากรัฐโอไฮโอไม่ใช่เรื่องที่ดี จึงหวังว่า จะเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ การกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐได้ให้การช่วยเหือต่อ GM รอดพ้นจากภาวะการล้มละลายเมื่อปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่สหรัฐต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงิน เนื่องจากฟองสบู่ซับไพรม์แตก และวิกฤติการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส

ขณะที่มีรายงานว่า แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวได้พบปะพูดคุยกับแมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ GM เมื่อวันจันทร์



5. GM ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทจะระงับการผลิตรถยนต์ในโรงงานหลายแห่งในสหรัฐและแคนาดาในปี 2019 รวมทั้งจะปลดพนักงาน 15% หรือมากกว่า 14,800 คน ในการปรับโครงสรัง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย 6,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีจนถึงปลายปี 2020

การตัดสินใจดังกล่าวของ GM หลังจากที่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง จากผลกระทบของสงครามการค้าที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตรถกระบะ, รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ แทน ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างของ GM ยังคงเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมือง รวมถึงผู้นำสหรัฐที่แสดงออกถึงความไม่พอใจในเรื่องนี้

logoline