ช่องโหว่ที่คนร้ายสามารถก่อเหตุได้ตลอดเวลาก็คือ "ตลาดนัด" ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนชายแดนใต้ เปิดกันแทบทุกตำบล และเมื่อมีตลาดนัดก็จะต้องมีกำลังพลไปรักษาความปลอดภัย ซึ่งก็คือ "ชุดคุ้มครองตำบล" นั่นเอง ส่วนกำลังพลกลุ่มอื่นๆ ทั้งทหารหลัก ทหารพราน ก็ต้องไปจ่ายตลาด หาซื้อของกินของใช้ และไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้ตกเป็นเป้าสังหารอย่างง่ายดาย
เจ้าหน้าที่ระดับปฏฺิบัติการในพื้นที่ ยอมรับว่า การดักยิงกำลังพลในตลาดแทบไม่สามารถป้องกันได้เลย เพราะคนร้ายแฝงตัวมากับประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของจำนวนมาก หนำซ้ำเมื่อถูกล็อคเป้าโจมตี เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ถนัด เพราะเกรงว่าประชาชนจะถูกลูกหลง ทำให้เป็นฝ่ายตั้งรับและสูญเสียทุกเหตุการณ์ ส่วนฝ่ายคนร้ายไม่สนใจผลกระทบใดๆ หลายๆ เหตุการณ์กระสุนพลาดไปโดนชาวบ้านในตลาดได้รับบาดเจ็บไปก็มี เหยื่อบางคนเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ
อีกประเด็นหนึ่งที่ฝ่ายความมั่นคงให้น้ำหนักว่าน่าจะเป็นสาเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้นถี่ยิบในช่วงนี้ ก็คือนโยบายปราบยาเสพติดขั้นเด็ดขาดของแม่ทัพภาคที่ 4 พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ที่เริ่มดีเดย์มาตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายปิดล้อม ตรวจค้น และปราบปรามมากกว่า 7,000 เป้าหมาย ที่ผ่านมีการจับกุมต่อเนื่อง จนทำให้เครือข่ายค้ายาไม่พอใจ และอาจจับมือกับผู้ก่อความไม่สงบที่มีบางส่วนพัวพันกับยาเสพติดเหมือนกัน เปิดปฏิบัติการตอบโต้