ภายหลังเทศกาลลอยกระทงผ่านพ้นไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้ระดมเจ้าหน้าที่ประจำจุดคอยเก็บกระทงบนผิวน้ำตั้งแต่บริเวณใต้สะพานพระราม 7 ไปจะถึงบริเวณวัดโยธินประดิษฐ์ เขตบางนา ระยะทางประมาณ 34 กม. โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพุทธ สะพานพุทธฯ ถึงสะพานกรุงเทพฯ และสะพานกรุงเทพถึงสุดเขตบางนา โดยจัดเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บกระทง จำนวน 213 คน
พร้อมใช้เรือในการจัดเก็บกระทงและเรือตรวจการณ์ จำนวน 40 ลำ และใช้รถบรรทุกเก็บขนมูลฝอยจำนวน 9 คัน ในการลำเลียงกระทงไปส่งที่สถานีขนถ่ายมูลฝอย โดยจะใช้จุดลำเลียง 2 จุด ได้แก่ บริเวณปากคลองโอ่งอ่าง สะพานพุทธฯ เขตพระนคร และท่าคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เขตราษฎร์บูรณะ
และเมื่อทำการจัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเสร็จทุกพื้นที่นับได้จำนวนได้ทั้งหมด 841,327 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 3.62 เป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและที่ย่อยสลายได้ 796,444 ใบ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 93.6 เป็น 94.7 พบว่าเขตลาดกระบัง ทำสถิติกระทงธรรมชาติมากสุด จำนวน 32,934 ใบ ส่วนกระทงโฟมเก็บได้จำนวน 44,883 ใบ ลดลงจากร้อยละ 6.4 เป็น 5.3 ซึ่งในปีนี้เก็บได้มากสุดที่เขตราษฎร์บูรณะ จำนวน 750 ใบ
สำหรับเขตที่มีกระทงมากสุด ได้แก่ เขตลาดกระบัง จำนวน 33,257 ใบ ขณะที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย มีกระทงน้อยสุดจำนวน 230 ใบ