การนำผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์ มาทิ้งหน้าวัดพระบาทน้ำพุ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก จากการเปิดเผยของเจ้าอาวาส ยอมรับว่าเกิดขึ้นแทบทุกเดือน และ ทางวัดเองก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะไม่รับผู้ป่วยเอาไว้ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องแม้แต่ละวัน ทางวัดจะมีรายจ่ายจำนวนมาก ตกวันละ 2 แสนบาท เดือนละ 6 ล้าน นอกจากการทิ้งผู้ป่วยแล้ว กระแสการปิดวัดพระบาทน้ำพุยังเกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งทางเจ้าอาวาส ยืนยันว่า ยังสามารถที่จะดูและได้
ขั้นตอนการนำผู้ป่วยมาทีวัด ต้องนำ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ประวัติการรักษา จากนั้นทางวัดส่งให้โรงพยาบาลตรวจการยืนยันเชื้อ เพื่อพิจารณารับดูแลปัจจุบันวัดดูแล ผู้ติดเชื้อ 1500 คน ผู้ป่วยหนัก 150 คน อีก 1000คน เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม้ติดเชื้อเสียชีวิต และ ผู้สูงอายุ 300 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ราว 2000 คน โดยแยกอาคารผู้ป่วยหนัก ระยะสุดท้าย และ ผู้ติดเชื้อที่แข็งแรง อาคารผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรค ส่วนเด็ก-คนชรา จะอยู่ที่บ้านเด็กธรรมรักษ์ ห่างจากวัดพระบาทน้ำพุ 80 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ 2 พันไร่
ขั้นตอนการนำผู้ป่วยมาทีวัด ต้องนำ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ประวัติการรักษา จากนั้นทางวัดส่งให้โรงพยาบาลตรวจการยืนยันเชื้อ เพื่อพิจารณารับดูแลปัจจุบันวัดดูแล ผู้ติดเชื้อ 1500 คน ผู้ป่วยหนัก 150 คน อีก 1000คน เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม้ติดเชื้อเสียชีวิต และ ผู้สูงอายุ 300 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ราว 2000 คน โดยแยกอาคารผู้ป่วยหนัก ระยะสุดท้าย และ ผู้ติดเชื้อที่แข็งแรง อาคารผู้ป่วยติดเชื้อวัณโรค ส่วนเด็ก-คนชรา จะอยู่ที่บ้านเด็กธรรมรักษ์ ห่างจากวัดพระบาทน้ำพุ 80 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ 2 พันไร่
สายธารน้ำใจที่หลั่งไหล เข้ามาบริจาค ทำให้ทางวัด ดูแลผู้ป่วยได้ แม้ที่ผ่านมาใช้ชีวิตจากการผิดพลาด แต่เมื่อก้าวเข้ามาอยู่ทีวัด ก็ถือว่าอยู่อย่างมีความสุขเอดส์ ครอบคลุมทุกสิทธิ์รักษา จ่ายยาต้านฟรี คุณภาพชีวิตอายุไขคนเท่าคนปกติ แต่ต้องตรวจเลือด รับยาเร็ว สังคมต้องเข้าใจ ให้โอกาสให้คนเหล่านี้ มีงานทำเลี้ยงตัวเองได้โรคเอดส์ ไม่ใช่โรคร้าย แต่เป็นโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการรักษา ที่สำคัญคือกำลังใจคนรอบข้าง