svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทรัมป์เผย 2 พรรคสามารถร่วมเล่นเกมการเมืองในสภาคองเกรส แต่ก็พร้อมทำสงคราม

08 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทรัมป์เผย 2 พรรคสามารถร่วมเล่นเกมการเมืองในสภาคองเกรส แต่ก็พร้อมทำสงครามถ้าพรรคเดโมแครตต้องการเข้ามาสืบสวนสอบสวน โดยได้แสดงความคาดหวังว่าจะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตในการเปิดสภาคองเกรสปีหน้า

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมากกว่า 2% ท่ามกลางการจับตามองถึงพรรคเดโมแครตคว้าชัยชนะครอบครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จะสามารถเบรกนโยบายกีดกันการค้าของผู้นำสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลต่อชาวอเมริกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ล่าสุด ผู้นำสหรัฐกล่าวหาญี่ปุ่นว่าทำการค้าไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ ด้วยการส่งออกรถยนต์ในอัตราภาษีต่ำ แต่ไม่นำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ


1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุมีความคาดหวังว่า การประชุมสภาคองเกรสที่จะจัดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า พรรครีพับลิกันจะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตได้ ทั้งในเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องไป

หลังจากที่การเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนนั้น พรรคเดโมแครตสามารถกลับมามีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นอีก 28 ที่นั่งเป็น 223 ที่นั่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่ปี 2010 ส่วนพรรครีพับลิกันได้เพียง 199 ที่นั่ง

ซึ่งหมายถึงว่า พรรคเดโมแครตจะเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบนโยบาย หรือเสนอให้มีกระบวนการสืบสวนสอบสวนในประเด็นที่มีข้อกล่าวหาต่างๆ เกิดขึ้น ขณะที่พรรครีพับลิกันยังคงควบคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา



2. ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาววานนี้ หลังการเลือกตั้งกลางเทอมว่า จะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานให้มีการปรับปรุงสะพาน ถนน และสนามบิน ตลอดจนถึงการควบคุมราคายาที่มีราคาถูกลง เพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกัน จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมุคงนโยบายด้านการค้า

โดยที่พรรคเดโมแครตจะมาหารือพร้อมกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, แผนการเกี่ยวกับโครงการรักษาสุขภาพ และแผนการใดๆ ที่กำลังพิจารณา



3. ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมากกว่า 2% ท่ามกลางการจับตามองถึงพรรคเดโมแครตคว้าชัยชนะครอบครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร จะสามารถเบรกนโยบายกีดกันการค้าของผู้นำสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลต่อชาวอเมริกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ส่งผลดาวโจนส์ปิดเมื่อวันพุธที่ 26,180 พุ่งขึ้น 545.29 จุด หรือ 2.13% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,813 พุ่งขึ้น 58.44 จุด หรือ 2.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,570 พุ่งขึ้น 194.79 จุด หรือ 2.64%



4. หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กลับมาพุ่งขึ้นยกแผง โดยเฉพาะหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์พุ่งขึ้น 4.4% หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 1.5% หุ้น 3M พุ่งขึ้น 3.07% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Apple พุ่งขึ้น 3.03% หุ้น Amazon พุ่งขึ้น 6.8% หุ้น Netflix พุ่งขึ้น 5.3% หุ้น Alphabet บริษัทแม่ของ Google พุ่งขึ้น 3.6% หุ้น Facebook เพิ่มขึ้น 1.06% และหุ้น Intel พุ่งขึ้น 3.1%

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และแถลงการณ์ที่เป็นการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนสุดท้ายและมิทิศทางปีหน้า



5. ล่าสุด ผู้นำสหรัฐกล่าวหาญี่ปุ่นว่าทำการค้าไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ ด้วยการส่งออกรถยนต์ในอัตราภาษีต่ำ แต่ไม่นำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ

ขณะที่รัฐบาลจะยังคงเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งกลางเทอม โดยการเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้ง โดยญี่ปุ่นจะยังคงให้ความร่วมมือกับสหรัฐในด้านต่างๆ

logoline