svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ลูกค้าย้อนรอย เตะหน้าแม่ค้าร้านปากระป๋องแลกตุ๊กตา งานกาชาด

07 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังจากเมื่อวันก่อนได้มีการเสนอคลิปวีดีโอ ขณะผู้ดูแลร้านปากระป๋องตกแลกตุ๊กตา กำลังผลักลูกค้าสาว เข้ามาเล่น เหตุเกิดภายในงานกาชาดและนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ประจำปี ที่ทางจังหวัดสมุทรปราการ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในศาลากลางจังหวัดและถนนโดยรอบ โดยภายในงานมีการแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมาย รถไต่ถัง รวมไปถึงร้านปาโปงปาเป้า บิงโก และอื่น ๆ ที่พบว่ามีการตั้งร้านค้าประเภทนี้จำนวนมาก


โดยผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อว่า Sunruktai Sinmankungsup เป็นคนนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาโพสต์ บนเฟสบุ๊ค จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์โจมตีเจ้าของร้านปากระป๋องตก บนโลกโซเชี่ยนกันจำนวนมาก ซึ่งตอนแรกเรื่องดังกล่าวกำลังจะจบลงด้วยดี

อ่านข่าว>>>กระหน่ำแชร์...แม่ค้าร้านขว้างกระป๋องฉุนลูกค้าหาว่าโกงแถมผลักกระเด็น

อ่านข่าว>>>แม่ค้ายันชัด....คนปาโกงจริง แม่ค้าก็ถูกผลักแต่ไม่มีภาพนั้นในคลิป!

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 สมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อว่า Sunruktai Sinmankungsup ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่นำคลิปแรกมาโพสต์


และในวันนี้ก็นำอีกคลิปขณะที่เจ้าของร้านปากระป๋องตกร้านเดิม ถูกลูกค้าสาวที่เคยก่อเหตุเมื่อวันก่อน ได้ใช้เท้าเตะเข้าที่ใบหน้าของ เจ้าของร้านปากระป๋องตก และมีข้อความระบุว่า ตัวเองชัด ๆ จากกระแสสังคมที่เขาเคยสงสารลูกค้าสาวที่ถูกกระทำ แต่ในวันนี้กลับไปเตะหน้าคนในร้านอีก ห้าวจริง ๆ ไปคนเดียวด้วย ตอนนี้อยู่โรงพัก เรียบร้อยเลยน้องเอ้ย พี่ช่วยได้เท่านี้ค่ะ จัดการเองเลยนะค้า คดีพลิก เป็นพี่จะอยู่เฉย ๆ ฟ้องร้อง ขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายมาสวย ๆ ไม่น่าเลย ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป


เพิ่มเติมนะคะ น้องน่าจะมีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตใจ ทางบ้านแจ้งว่าป่วยต้องไปรักษาค่ะ** พร้อมทั้งโพสต์คลิปวีดีโอ ที่ถ่ายเอาไว้ได้


ขณะที่ นางสาว สิริวิมล ขุนรักษ์ อายุ 26 ปี ผู้ที่เคยปรากฏในคลิปก่อนหน้านี้ว่าเป็นลูกค้าที่ถูกทางด้าน นางสาว เมตตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ดูแลร้านทำร้ายร่างกาย มาวันนี้เธอเดินกลับมาที่ร้านดังกล่าวอีกครั้งพร้อมทั้งถามหาคู่กรณีที่เคยทำร้ายร่างกายเธอ กับนางสาว สาวิตรี จันทร์อ่อน อายุ 39 ปี เจ้าของร้านซึ่งนั่งเล่นอยู่หน้าร้านและได้ตอบกลับไปว่าหญิงสาวคู่กรณีไม่อยู่ที่ร้านแล้วไล่ออกไปแล้ว ทำให้นางสาวสิริวิมล ไม่พอใจและยกเท้าเตะที่ปากของนางสาวสาวิตรี ไปหนึ่งครั้งก่อนจะวิ่งหลบหนี แต่ถูกลูกชายเจ้าของร้านวิ่งตามไปจับตัวเอาไว้ได้และพาขึ้นโรงพัก สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อให้ทางด้านตำรวจช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย


หลังทั้งคู่เดินทางมาถึงโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเบื้องต้นก่อนแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายในฐานความผิด ทะเลาะวิวาทกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณะสถาน หรือกระทำโดยอันใด ให้เสียความเรียบร้อยในทางสาธารณะหรือสาธารณะสถาน ทั้งสองให้การับสารภาพว่าก่อเหตุจริงพนักงานสอบสวนจึงเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป


ด้านนางสาวสาวิตรี ได้เล่าว่า ในขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ที่หน้าร้าน อยู่ ๆ นางสาว สิริวิมล ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาถามหาหลานสาวต้นที่เคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ ตนจึงบอกไปบอกไล่ออกไปแล้วและเกิดการโต้เถียงกันก่อนที่นางสาวสุวิมล จะยกเท้าเตะเข้าที่ใบหน้าตน 1 ครั้ง ก่อนวิ่งหนีไปจังหวะเดียวกันที่ลูกชายตนเห็นเหตุการณ์จึงได้วิ่งไล่ตามไปล๊อกตัวเอาไว้ ก่อนพากันไปคุยกันที่โรงพัก แต่กลับถูกปรับทั้งคู่ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ไปหาเรื่องใครแต่กลับมาทำร้ายเรา มีอะไรพูดกันดี ๆ ก็ได้ อยากให้เขาขอโทษเราสักคำหนึ่งแต่เขาจะให้เราขอโทษเขามันถูกแล้วเหรอ แต่เขาเป็นคนมาเตะหน้าเรา ไปโรงพักก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลยแถมเสียค่าปรับอีก ไปให้เขาเตะ และตอนแรกที่มีคลิปออกมาคลิปแรกที่เขาถูกหลานสาวเราผลัก เขาก็ด่ากันมาเยอะเลยทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำ ตอนที่เขาถูกเขาลงหมด แต่ตอนที่เขาผิดทำไมไม่เอาลงบ้าง เขาด่าแม่ค้าและทุบแม่ค้า และทำลายข้าวของในร้านเขาทำไมไม่เอาลง ถ้าพูดถึงว่าเขาจะเป็นลูกนายใหญ่โตแค่ไหนเขาต้องมาคุยกันมาเคลียร์กัน ไม่ใช่มาทำแบบนี้ คนจนไม่มีความหมายเลย จะมาทำอย่างโน้นอย่างนี้ได้หมดทุกอย่าง หลังจากที่คลิปแรกโพสต์บนโลกโซเชียลทำให้ตนขายของไม่ได้เลย และมีคนมาหาเรื่องอีกก็พวกเดียวกับเขานั่นแหละเราต้องเอาหลานหลบหลังร้านแล้ว เขาก็จะเอาเรื่องอยู่นั่นแหละ อยากให้เขาจบก็คือจบ ไม่ต้องมาหาเรื่องกันอีกเพราะเราทำมาหากิน เราไม่ได้มาหาเรื่อง ถ้าพูดว่าจะมาหาเรื่องมาหน้าร้านมาคุยกันถ้าอยากมาหาเรื่อง

logoline