เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ วอนโยมทราบข้อปฏิบัติก่อนนำผู้ป่วยมาวัด

'พระอุดมประชาทร'หรือ พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยระหว่างการลงโปรดญาติโยม บริเวณตลาดสำเหร่ เขตธนบุรี กรณีที่มีการเเชร์ภาพผ่านทางเเฟนเพจวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จากการนำผู้ป่วยมาทิ้งไว้ข้างกำแพงหน้าวัด พร้อมอธิบายว่า อาจเป็นทางเลือกที่ง่าย แต่เป็นทางเลือกที่ไม่เป็นผลดีสำหรับคนไข้ ปัจจุบันโรคเอดส์สามารถรักษาและควบคุมอาการได้หาก ผู้ป่วยได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่งทั่วประเทศ

โดยเจ้าอาวสวัดพระบาทน้ำพุ บอกว่า ปกติการนำผู้ป่วยที่วัด จะต้องมาติดต่อพยาบาลแต่เหตุการณ์ทิ้งผู้ป่วย เอดส์ ก็นับเป็นเรื่องปกติ เพราะตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์แบบนี้ตลอดทุกเดือน แต่ครั้งนี้เป็นความปารถนาดีของทางวัด ที่จะให้คนได้เรียนรู้และเข้าใจ ว่าจริงๆแล้วควรจะปฏิบัติกับผู้ป่วยอย่างไร ภาพที่ออกมาบางคนก็อาจจะดูแล้วรู้สึกแย่ แต่ในความเป็นจริงมีภาพที่แย่ๆกว่านี้อีกเยอะ บางรายถูกนำมาทิ้งเพียงเสื่อผืนเดียว รายล่าสุดยังถือว่าดี ที่มีผ้าปู ผ้ารอง มีผ้าห่ม จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ญาติที่นำมาทิ้ง แต่เป็นเพื่อนบ้านที่มีความสงสารจึงนำมาทิ้งไว้ที่วัด โดยผู้ป่วย HIV รายนี้ก็ผ่านการรักษามาระดับหนึ่ง แต่ยังมีเชื่อวัณโรคอยู่ ขณะเดียวกันหากเราไม่รู้ก็จะเกิดการแพร่ระบาดได้



หลังเป็นข่าวใหญ่ทุกสื่อนำเสนอ จึงอยากให้มองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่มีการนำผู้ป่วยเอดส์มาทิ้ง และ อย่าไปมองว่าญาติใจร้ายบางครั้ง ผู้ป่วยบางคนไม่มีญาติ ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง เช่น ผู้ป่วยที่อยู่บ้านเช่าไม่มีเงินจ่าย เจ้าของบ้านก็ลำบากใจ เจ้าของบ้านจึงต้องจ้างรถให้นำผู้ป่วยมาที่วัด จึงนับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ปพติ ที่มักมีการนำผู้ป่วยมาทิ้งหน้าวัด ข้างวัด หรือ ห่างไปจากวัด 200-300 เมตรก็มี




เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ บอกด้วย กล่าวด้วยว่า จริงแล้วการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สถานภาพของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน สำหรัยผู้ป่วยรายนี้ ทราบว่ามีลูกชายแต่ทางวัดก็ยินดีที่จะรับดูแลไว้ โดยไม่ต้องเสียค่าใจจ่ายใดใด ไม่ต้องกังวล เพียงแต่ว่าการนำผู้ป่วยมาทิ้งแบบไม่มีเอกสาร หลักฐานบัตรประชาชน สเนาทะเบียนบ้าน ผลการตรวจรักษาไม่มี จะเป็นความยุ่งยากที่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่

สถานการณ์การดูแลผู้ป่วย ของวัดพระบาดน้ำพุ ในส่วนผู้ป่วยหนัก คุมสถานการณ์ไว้ที่ 200 คน ส่วนผู้ป่วยแข็งแรง และ เด็ก 500 คน และ เด็กกำพร้าที่เกิดจากพ่อแม่ติดเชื้อ ทางวัดดูแลอยู่ 1000คน คนชราที่ลูกหลานเป็นเอดส์เสียชีวิต 300คน รวมทั้งหมด 2000 คน ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน 5-6 ล้านบาท 100บาทต่อคนต่อวัน


ส่วนกระแสข่าวที่มักปรากฏบ่อย ว่าทางวัดจะปิดบ้าง ขาดงบบ้าง เจ้าอาวาสยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่ใช่ข่าวที่ออกมาจากวัด แต่อาจจะเป็นผู้หวังดี ที่อุปถัมภ์วัดมากขึ้น ยืนยันว่าไม่ปิดแน่นอน ทางวัดมีความมั่นคงเข้มแข็ง และ ยังจะขยายต่อในส่วนของการดูแลผู้ป่วยหนัก








พระอุดมประชาทร'บอกด้วยว่า การโปรดญาติโยมในแต่ละวัน เพื่อระดมปัจจัย แม้จะเหนื่อยแต่มีความสุข ให้คนได้มีชีวิตอยุ่รอด ปีนี้เป็นปีที่26แล้ว ก็ยังเป็นที่พึงของผู้ป่วยได้มากขึ้น สำหรับสิ่งที่ทางวัดยังต้องการได้รับสนับสนุน จากผู้มีจิตศรัทธา หากอยากจะบริจาค หลัก ๆ คือ เรื่องอาหารกิน เพราะวัดต้องดูแลคนวันละ2000คน ข้าวสาร อาหารแห้ง ซอส ซีอิ้ว น้ำปลา ต้องการมาก รองลงมาสิ่งของที่จำเป็น สบู่ ยาสีฟัน แชมพูสระผม แป้ง ยี่ห้ออะไรก็ได้ เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว ก็นำมาบริจาคได้


อยากเจริญพรญาติโยมว่า ศรัทธา น้ำใจ ของประชาชนที่ไม่เคยหมดสิ้น และทางวัดยืนยันว่าเข้มเเข็งไม่เลิกดูแลผู้ป่วยแน่นอน มีแต่จะเพิ่ม โดยเฉพาะการเดินหน้าก่อสร้างอาคารรอวผู้ป่วยหนัก เพราะเชื่อว่าในอนาคตจะมีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับที่ที่ต้องการบริจาคสามารถบริจาคผ่านทางบัญชีของวัด ที่เเฟนเพจวัดพระบาทน้ำพุ หรือ เดินทางไปบริจาคที่วัดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การโปรดญาติโยม เป็นกิจของเจ้าอาวาส ที่ปฏิบัติทุกวัน โดยในวันนี้ ช่วงเช้าโปรดญาติเเถวชัมชนวัดกัลยาณมิตร และ ตลาดสำเหร่ เขตธนบุรี โดยมีประชาชนร่วมถวายปัจจัย จำนวนมาก