svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สมอ. คุมเข้มผู้ทำ-นำเข้ากระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ตามมาตรฐานใหม่

05 พฤศจิกายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สมอ. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จำนวน 109 รายการ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานหรือมาตรฐานบังคับ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยในการใช้งาน

ซึ่ง สมอ. ได้กำหนดให้กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2062-2558 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ทำและนำเข้าได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐานใหม่แล้ว จำนวน 17 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ผลิตในประเทศ 8 รายและผู้นำเข้า 9 ราย จากเดิมที่มีผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐานเก่า จำนวน 50 ราย แบ่งเป็น ผู้ผลิตในประเทศ 20 ราย และผู้นำเข้า 30 ราย สมอ. จึงแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการที่ยังไม่มาขออนุญาตให้รีบดำเนินการตามมาตรฐานใหม่เท่านั้น หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

มาตรฐานกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าฉบับใหม่นี้ อ้างอิงมาจากมาตรฐาน IEC 60335-2-15 (2012) โดยมีเนื้อหาเพิ่มเติมจากมาตรฐานเดิม เพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้าและมีการทดสอบระบบดิจิตอลที่ใช้ควบคุมการทำงานต่างๆของกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เช่น ระบบเร่งเดือด ระบบปรับระดับอุณหภูมิ ระบบล็อคฝาอัตโนมัติ ฯลฯ รวมถึงซอฟแวร์ในระบบดิจิตอลที่ติดตั้งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงฝากถึงผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าที่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน ซึ่งติดอยู่บนตัวสินค้า จึงจะมั่นใจได้ว่าสินค้ามีความปลอดภัยในการใช้งาน มีคุณภาพและคุ้มค่า

นอกจากนี้ สมอ. ได้ปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานน้ำปลาพื้นเมือง มอก. 3-2526 ให้สอดคล้องตามมาตรฐานของคณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO (Codex Alimentarius Commission - CAC) ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานอาหารในระดับสากล โดยมาตรฐานน้ำปลาที่ สมอ. จะกำหนดใหม่นี้ จะควบคุมสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย โลหะหนักต่างๆ เช่น ตะกั่ว สารหนู ปรอท รวมถึงสารฮิสตามีน (Histamine) ซึ่งเกิดในกระบวนการหมักน้ำปลา ถือเป็นสารพิษที่เป็นอันตรายในอาหาร หากบริโภคเข้าไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ รวมทั้งควบคุมในเรื่องของปริมาณสารอาหารในน้ำปลา เช่น ไนโตรเจน โซเดียม ให้เป็นไปตามปริมาณที่กำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการกำหนดมาตรฐานคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2562 นอกจากมาตรฐานน้ำปลาแล้ว สมอ. ยังดำเนินการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานเครื่องปรุงรสอีก 2 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานน้ำส้มสายชู และน้ำซอสปรุงรส โดยมาตรฐานน้ำส้มสายชูขณะนี้ปรับปรุงมาตรฐานแล้วเสร็จ โดยปรับแก้ใน 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ การควบคุมปริมาณสารปนเปื้อนต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และภาชนะที่ใช้บรรจุจากเดิมให้ใช้เฉพาะขวดแก้ว แก้ไขเป็นสามารถบรรจุในขวดพลาสติกได้ แต่ต้องเป็นภาชนะพลาสติกที่เป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น ส่วนมาตรฐาน น้ำซอสปรุงรสจะปรับแก้ต่อไป ซึ่งหลักการในการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารนั้น จะกำหนดโดยอ้างอิงมาตรฐานอาหารในระดับสากล และให้มีความสอดคล้องกับเทคโนโลยีและความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ สมอ. ขอเชิญชวนให้ติดตามข่าวสารด้านการมาตรฐานจาก สมอ. ที่สะดวกและรวดเร็วที่ www.tisi.go.th และ www.facebook.com/tisiofficial ท่านจะไม่พลาดข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค

logoline