อึ้งพี่ชายส.ส.เพื่อไทยครอบครองที่ป่าแหว่งเพชรบูรณ์

ตามที่พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการที่ 4 (ศปป.4) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ประมาณ 1,800 ไร่ บริเวณภูขี้ไก่ รอยต่อของอ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2561 พื้นที่นี้มีการเปิดตัวโครงการสวนน้ำแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุด โดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด นายทหารชั้นผู้ใหญ่ มาร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งๆ ที่ดินกำลังอยู่ในกระบวนการเพิกถอนโฉนด ของกรมที่ดินและเป็นคดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่ง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ร่วมกับกรมป่าไม้ แล้วเห็นว่า เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ชั้น 1 บี และชั้น 2 พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าสมบูรณ์ และดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ และส่งให้ ป.ป.ท.ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกเอกสารสิทธิมิชอบ เมื่อปี 2551 รวมถึงเสนอให้กรมที่ดิน เพิกถอนโฉนด ตั้งแต่ปี 2552 แล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ได้บูรณาการหน่วยงาน เข้าปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ภูขี้ไก่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สจป.4 พิษณุโลก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า กอ.รมน.จังหวัดเพชรบูรณ์ กกล.รส.พล.ม.1(ช.พัน.8) ที่ดินอำเภอหล่มเก่า ตำรวจ กก.ตชด.31จ.เพชรบูรณ์ และตำรวจ กก.4 บก.ปทส.รวม 50 นายปฏิบัติการตรวจยึดของกลางและพื้นที่การกระทำผิด บริเวณที่ออกโฉนดที่ดินโดยชาวบ้านเรียกว่า"ภูขี้ไก่"พื้นที่รวม 2,195 - 2 - 11 ไร่ อยู่ในเขต อ.หล่มเก่า จำนวน 46 แปลง และอ.หล่มสัก 11 แปลง ขณะตรวจสอบพื้นที่มีนายปณิธาร ชวาลสันตติ เจ้าของที่ดิน และนายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ "อาจารย์ชา" เจ้าของโครงการฯ มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการขยายถนน และตัดไม้สักบริเวณริมถนนสองช้างทางเข้าโครงการชุมชน ธะธรรมชาติ ว่าได้ร่วมกับ อบต.หล่มเก่า ใช้เครื่องจักรกลหนักตัดถนนกว้างประมาณ 20 เมตร เข้าไปในพื้นที่ ตลอดสองข้างทางมีการตัดไม้สัก และไม้อื่นๆ โดยใช้รถแทรคเตอร์ดันไม้กองไว้ริมสองข้างทางจำนวนมาก



พ.อ.พงษ์เพชร เปิดเผยด้วยว่า คณะเจ้าหน้าทีได้ตรวจยึดไม้สักที่ถูกตัดโค่นดำเนินคดี 473 ท่อน ส่ง สภ.หล่มเก่าดำเนินคดี เป็นคดีอาญาที่ 491/2561 ยึดทรัพย์ที่ 188/2561 และตรวจยึดไม้สักอีก 6 จุด จำนวน 213 ท่อน ส่ง สภ.บ้านติ้ว ดำเนินคดี เป็นคดีอาญาที่ 128/2561 ยึดทรัพย์ที่ 61/2561


นอกจากนี้ ขณะที่ตรวจสอบพื้นที่ และตรวจยึดไม้สักมีชาวบ้าน 3 รายได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ารถแทรคเตอร์ของโครงการฯ ทำถนนบุกรุกเข้ามาในแปลงที่ดินของตน และโค่นต้นไม้หลายต้นเจ้าหน้าที่จึงให้ไปแจ้งความที่ สภ.หล่มเก่า และสภ.บ้านติ้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไว้ทุกคน เพื่อประกอบการดำเนินคดี

สำหรับ นายปณิธาร ชวาลสันตติ อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 5 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นพี่ชาย นายณรงค์กร ชวาลสันตติ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2558 เคยโดนเจ้าหน้าที่ตรวจยึดที่ดินที่เข้าไปบุกรุก บริเวณบ้านโนนสาวเอ้ ม.7 ต.บ้านหวาย และ ม.11 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก ซึ่งอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ป่าผืนนี้ยังทับซ้อน กับพื้นที่ที่กองพลทหารม้าที่ 1 ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ (อยู่ในขั้นตอนพิจารณาอนุญาตจากกรมป่าไม้) และพื้นที่บริเวณนี้ก็ไม่ได้รับการผ่อนผันตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 และใช้ใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ ใบ ภ.บ.ท.5 หน้าสำรวจ 420/41 มาแจ้งยืนยันเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำหลักฐานดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนสถานีหล่มสักดำเนินคดีตามกฎหมาย


ส่วนนายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ "อาจารย์ชา" เมื่อเดือนม.ค.2561 เจ้าหน้าที่เชิญมาให้ข้อมูลกรณีนำรถแทรกเตอร์ เข้าไถถากถางปรับพื้นที่บริเวณเนินและภูเขาบริเวณภูขี้ไก่ บริเวณหมู่ที่ 5 ต.หล่มเก่า หลายสิบลูก โดยอ้างเอกสารโฉนดที่ดิน จนถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าเป็นบุกรุกป่าสมบูรณ์และป่าต้นน้ำป่าสัก นอกจากนี้ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอยู่ในแปลงภูขี้ไก่ ที่กรมที่ดิน กำลังพิจารณาเพิกถอนโฉนด ครั้งนั้น นายอนัตต์ณังธะโคตร ชี้แจงว่า มีที่ดินเพียง 34 ไร่ โดยตกลงกับเจ้าของที่ดินไว้ไร่ละ 60,000 บาท แต่ยังไม่ได้ซื้อขายเพียงแต่วางมัดจำไว้แค่ 200,000 บาท แต่เนื่องจากทางเจ้าของมีที่ดินหลายแปลงจึงจะติดต่อขายให้โดยตกลงจะนำส่วนต่างมาทยอยผ่อนให้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทำให้เพิ่งรู้ว่าที่ดินแปลงนี้มีปัญหาก่อนหน้านี้เห็นว่ามีโฉนดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ ณ ตอนนี้หากการตรวจสอบจะมีขบวนการอย่างไรก็พร้อมรับและคงต้องหาที่ดินใหม่



อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังพบว่า นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ "อาจารย์ชา" ยังอ้างสิทธิครอบครองที่ดิน และดำเนินโครงการชุมชน ธรรมชาติ อยู่