ไม่พลิกโผ "กัญจนา" นั่งแท่นหัวหน้าพรรค "ชทพ."

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อปรับข้อบังคับพรรค และเลือกหัวหน้าพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเป็นไปตามความคาดหมาย ที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และ นายประภัตร โพธสุธน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค


ทั้งนี้ในส่วนการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคตอนต้นนั้น มีบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ 2 คน คือ นายธีระ วงศ์สมุทร และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แต่นายธีระขอถอนตัวจากการแข่งขันดังกล่าว เนื่องจากมองว่า น.ส.กัญจนา เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมและต้องการให้สมาชิกพรรคมองไปในทิศทางเดียวกัน


โดยนายธีระ กล่าวเปิดใจตอนหนึ่งด้วยว่า ตนเข้ารับหน้าที่หัวหน้าพรรค กว่า 5 ปี 7 เดือน 7วัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 หลังจากที่นายชุมพล ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคถึงแก่อนิจกรรม แต่ช่วงที่ตนทำงานถือว่าทำได้เฉพาะงานธุรการ เพราะมีข้อจำกัด แต่ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ เต็มฝีมือ ตามโอกาสที่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ตามการทำงานของพรรคต่อจากนี้ ตนอยากให้เปรียบเป็นนิ้วมือ ที่มีนิ้วชี้เป็นพระเอก ขณะที่นิ้วอื่นๆ ร่วมกันทำงาน เพื่อประคองให้พรรคไปสู่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังการเสนอชื่อหัวหน้าพรรค ที่ประชุมได้เสนอชื่อบุคคลตำแหน่งอื่นๆ อาทิ ตำแหน่งเลขาธิการพรรค เสนอชื่อ นายประภัตร โพธสุธน ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค อาทิ รองหัวหน้าพรรค นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม, นายวิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์, นายสัมพันธ์ แป้นพันธุ์ อดีต ส.ส. , นายยุทธพล อังกินันทน์ อดีตส.ส., ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค มีผู้ถูกเสนอชื่อ 3 คน ได้แก่ นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง อดีต ส.ส., นายพันธุ์เทพ สุรีสถิร อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย, น.ส.ทัศลักษณ์ ปัตตาพงศ์ภัช หลานนายสวัสดิ์ เป็นต้น


โดยรายชื่อที่ถูกเสนอจากที่ประชุม ตามข้อบังคับต้องลงคะแนนลับในคูหา ซึ่งผู้ที่จะผ่านการเห็นชอบต้องได้เสียงเกินครึ่งของที่ประชุม ที่มีผู้เข้าร่วม 430 คน ซึ่งผลการลงคะแนนทุกรายชื่อที่เสนอ ได้รับความเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.กัญจนา ได้รับคะแนน 345 คะแนน, นายประภัตร ได้คะแนน 342 คะแนน เป็นต้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา พร้อมด้วย นายภราดร ปริศนานันทกุล, นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ , นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ไม่มีรายชื่อในคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะฝ่ายการเมืองของพรรคได้วิเคราะห์และมีความเห็นร่วมกันว่าจะให้ทำหน้าที่ในตำแหน่งคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งจะแต่งตั้งภายหลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ประชุมกันนัดแรก.