(คลิปข่าว) รปพช.จ่อลงพื้นที่รับสมัครสมาชิก

และสำหรับการลงพื้นที่เพื่อรณรงค์รับสมัครสมาชิกพรรคของพรรครวมพลังประชาชาติไทยในครั้งนี้ จะเรียกว่า ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่น โดย เลขาธิการพรรคได้บอกว่ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเเนะนำพรรคให้ประชาชนได้ทำความรู้จักและโดยขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้

ความคืบหน้าล่าสุดของพรรครวมพลังประชาชาติไทย หลังจากได้รับการรับลองจากกกต.ให้เป็นพรรคการเมืองอย่างสมบูรณ์ตามกฏหมายแล้ว ซึ่งในวันนี้ เลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง พร้อมด้วย กรรมการบริหารพรรค บางส่วน จัดแถลงข่าวเรื่อง " ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน" เพื่อรณรงค์รับสมัครสมาชิกพรรค และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน ที่อาคาร ทูแปซิฟิกเพลส กรุงเทพมหานคร ซึ่งในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ได้มีมติเลือกให้นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคเป็นหัวหน้าคณะทำงานปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินในครั้งนี้

โดย นายทวีศักดิ์ บอกว่า เป็นเรื่องที่ทราบกันดีที่พรรคการเมืองใหม่จะมีเวลาในการเตรียมการเลือกตั้งน้อยมาก บนสมุมติฐานในวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้นเมื่อได้รับการรับลองจากกกต.ให้พรรครวมพลังประชาขาติไทยเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการแล้วก็ได้มีการประชุมเพื่อเร่งเตรียมเเผนดำเนินการในการรับสมัครสมาชิกพรรค จึงได้จัดกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดินในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแนะนำตัวให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนมาร่วมเป็นเจ้าของพรรคการเมืองอย่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยกำหนดการจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ในวันพรุ่งนี้ก็คือวันที่25 ตุลาคม โดยจะมีการนำพานพุ่มดอกไม้ถวายสักการะและกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณของพรรค ณ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเริ่มเดินรณรงค์พบปะประชาชนย่าน วรจักรและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นการเดินขบวนอย่างสงบเรียบร้อยบนทางเดิน

ส่วนกำหนดการเดินคารวะแผ่นดินในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ต่อไปนั้น คือวันที่ 26 ตุลาคม ที่ถนนสุขุมวิท/ วันที่ 27 ที่เยาวราช /วันที่ 29 ที่ถนนสีลม/ วันที่ 30 ที่ถนนสาทร และวันที่ 31ที่ประตูน้ำ

นอกจากนี้ทางพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้ย้ำว่ากิจกรรมการเดินพบปะชาชนในครั้งนี้ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองที่ผิดกฏหมาย ซึ่งขออย่าได้เข้าใจผิดหากพบเห็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณเดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย

และจากนั้นวันที่1 พฤศจิกายน จะเริ่มเดินสายออกปฏิบัติการที่ภาคตะวันออก ในหลายจังหวัด เช่น ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรีและฉะเชิงเทรา เป็นต้น ก่อนที่จะมีการเดินสายไปยัง3 จังหวัดชายเเดนใต้ ต่อไป