เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม ที่บริเวณด้านข้างวิหารวัดท่าถนน ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเพ็ชร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวอุตรดิตถ์นับถือ คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อนายศิวดล ตุลาคุณากรณ์ อายุ 29 ปี ชาวอุตรดิตถ์ ซึ่งประกอบอาชีพทนายความ รับว่าความอยู่ที่กรุงเทพฯและต่างประเทศพร้อมครอบครัว ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว สีขาวป้ายแดง เลขทะเบียน ล-2715 กรุงเทพมหานคร พร้อมรถยนต์กระบะ อีกจำนวน 3 คัน ที่กระบะท้ายบรรทุก หัวหมูต้ม ไก่ต้ม ไข่ต้ม และผลไม้จำนวนมาก และมีประชาชนช่วยกันขนของทั้งหมดมาจัดเรียงแยกประเภท โดยหัวหมูต้ม ไก่ต้มใส่ถาด ผลไม้ใส่ตะกร้าพลาสติก วางบนโต๊ะส่วนไข่ต้มอยู่ในแผงไข่ตั้งเรียงอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเครื่องไหว้ตามประเพณี
จากนั้นเวลา 09.09 น.นายศิวดล ถือฤกษ์ดี เวลาดี นำดอกไม้ธูปเทียน และนั่งคุกเข่าหน้าวิหารหลวงพ่อเพ็ชร ยกมือไหว้ ตั้งจิตอธิฐาน ก่อนจะเดินเข้าไปปิดทองและกราบสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชรภายในวิหาร และออกมาจุดธูป ตามจำนวนสิ่งของที่จัดถวาย นั่งคุกเข่าหน้าสิ่งของที่จัดเตรียมถวายหลวงพ่อเพชร ตั้งจิตอธิฐานด้วยความตั้งใจ จากนั้นแจกธูปทั้งหมดให้ครอบครัวและลูกความ ช่วยกันปักบนสิ่งของให้ครบทุกอย่าง และนั่งรอให้ธูปหมด
นายศิวดล กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพทนายความรับว่าความเกี่ยวกับคดีธุรกิจ เป็นที่ปรึกษากฎหมายด้านการเงิน รับว่าความอยู่ในที่กรุงเทพฯและมีลูกความเป็นคนไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่อังกฤษเป็นส่วนใหญ่ หลังประสบความสำเร็จด้านการงาน ชีวิตครอบครัว ตั้งใจที่จะตอบแทนพระคุณบ้านเกิดเมืองนอน ด้วยการทำบุญ ถือโอกาสช่วงที่ว่างการจากว่าความ พาครอบครัวมาเยี่ยมแม่ที่ จ.อุตรดิตถ์ และทำบุญถวายหลวงพ่อเพ็ชร ที่วัดท่าถนน ซึ่งทำแบบนี้ติดต่อกันมา 4 ปีและจะทำต่อไปเรื่อยๆ โดยจัดถวายหัวหมู 99 หัว ไก่ 99 ตัว ไข่ไก่ 9999 ฟอง และผลไม้ 9 อย่าง พวงมาลัย 9 พวง
โดยปีแรก เมื่อ พ.ศ.2558 เป็นการแก้บนหลังสมปรารถนาในสิ่งที่ของ ทำให้ตนว่าความชนะในคดีใหญ่ที่ต่างประเทศ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่ปีต่อๆมา เป็นการทำบุญทั้งนี้สิ่งของทั้งหมด หลังจากประกอบพิธีเสร็จ ได้แยกเป็นส่วน คือ ถวายพระสงฆ์ที่วัด แจกให้ประชาชนที่มารออยู่ที่วัด ผู้ยากไร้ ญาติผู้ป่วยที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ น้องๆเด็กพิเศษ ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดอุตรดิตถ์ และ โรงเรียน 5 แห่งต้องการนำไข่ต้มไปทำพะโล้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ทำบุญทำทาน
"ทั้งนี้หลักในการทำงานของตัวเองคือ หลังว่าความเสร็จ จะแนะนำให้ลูกความรู้จักแบ่งปั่น ทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง อาชีพ ครอบครัว และใช้หลักศีล 5 ในการประกอบอาชีพ ไม่โกหก ชนะบอกชนะ แพ้บอกแพ้ อยู่ในกรอบของความรับผิดชอบ ที่สำคัญเคารพผู้อาวุโสกว่าเสมอ และตนจะจัดสรรเงินจากรายได้ส่วนหนึ่งเก็บออม เพื่อทำบุญ ให้ทาน เพราะถือเป็นความสุข" นายศิวดลกล่าว