svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

(คลิปข่าว) นายกฯ รับเปิดเพจ มีทั้งเสียงชมและติ

16 ตุลาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

(ชมคลิปเต็มด้านล่าง) หลังถูกกระแสวิจารณ์ถึงการเปิด4ช่องทางสื่อสารในโลกออนไลน์ วันนี้ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเสียงตำหนิและชม ไป ติดตามกับคุณอนุพรรณ จันทนะ

พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับ มีทั้งคนด่า และชม หลังเปิดเฟสบุ๊กส่วนตัว และถูกในสังคมออนไลน์เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์หนัก แต่ยังยิ้มได้ เมื่อเรตติ้งดี พร้อมตอกกลับเรื่องบัตรคนจน ไม่ได้แบ่งแยกชนชั้น

หลัง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" และมีประชาชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งให้กำลังใจ และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาอย่างหนัก ล่าสุดก่อนการเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงกรณีนี้สั้นๆว่า "ก็มีทั้งด่า ทั้งชม ก็เป็นเรื่องธรรมดา" เมื่อถามว่าเรตติ้งดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ก็ดี ดูเอาเอง"

นอกจากนี้ ก่อนเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดว่า เมื่อรัฐบาลมีการแก้จน ก็มีคนมาแปลงเจตนาผิดไปมองว่า เป็นการแบ่งแยกชนชั้น ซึ่งถ้าเข้าใจรัฐบาลก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นประเด็นทางการเมือง ดังนั้นลองไปเปลี่ยนดู ไม่ว่าเรื่องบัตรสวัสดิการต่างๆเราใช้คำว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการดูแลประชาชนที่ขึ้นทะเบียน เราไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ลองไปเปลี่ยนชื่อดูว่า จะเรียกอย่างไรได้เต็มปาก เป็นบัตรความสุข หรืออะไรทำนองนี้ได้หรือไม่

ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บอกถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชนของกลุ่มการเมืองต่างๆว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไปทำความเข้าใจ ซึ่งส่วนตัวก็ทราบมาว่าผู้ตรวจ กกต. ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการลงพื้นที่ของกลุ่มการเมือง และนักการเมืองแล้ว โดยทุกอย่างที่พรรคการเมือง หรือ กลุ่มการเมืองดำเนินการไป ทาง กกต. ได้บันทึกไว้ทั้งหมด ซึ่งในอนาคต หากมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ก็จะมีผลตามที่บันทึกไว้ จึงอยากให้พรรคการเมือง หรือ กลุ่มการเมือง ระมัดระวัง ต้องคำนึงถึงกฎหมายด้วย 


ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความสงสัยว่า สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่พรรคการเมืองลงไปทำในพื้นที่ได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ยืนยันว่า สำหรับประชาชนคงไม่มีความผิด ซึ่งประชาชนที่บริสุทธิ์ไม่ต้องกังวล เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กลุ่มการเมือง หรือ พรรคการเมือง ต้องระมัดระวังมากกว่า  

logoline