นายเจ๊ะอารง มามะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.พิเทน กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เด็กขโมยเงินจำนวน 12,000 บาท จากเจ้าทรัพย์ และมีการพาไปชี้จุดที่นำเงินไปซ่อน 5-6 จุด แต่ไม่พบและเด็กบอกว่าจำไม่ได้ เจ้าของเงินจึงได้โทษเด็ก จนตนเองต้องเป็นตัวกลางในการมาไกล่เกลี่ย ซึ่งเหตุการณ์ที่ถูกนำมาลงในเฟซบุ๊กถือว่าไม่เป็นเรื่องจริง หลังจากนี้จะฟ้องเอาผิดกับคนที่นำไปลงเฟซ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลทุ่งยางแดง พบเด็กหญิงรายดังกล่าว นอนพักรักษาตัวตามร่างกายมีรอยฟกช้ำที่แขน และขา หลายจุด และเด็กยอมรับว่า ขโมยเงินจริง เพียงจำไม่ได้ว่าเงินที่ขโมยไปซ่อนไว้ที่ไหน
ด้านนายอับดุลการิม ยีดำ นายอำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี สั่งกำชับให้มาตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมตามหลักมนุษยธรรม ทั้งผู้เสียหายและคนที่ก่อเหตุ คือนายมักตา วาลี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.พิเทน และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้ใหญ่บ้านด้วย
ส่วน พันตำรวจเอกสมปราชญ์ กรรณกานนท์ ผู้กำกับการ สภ.ทุ่งยางแดง เหตุการณ์นี้แยกเป็น 2 คดี คือลักทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย คือ เด็กหญิงวัย 14 ปี เป็นทั้ง ผู้ก่อเหตุ คือขโมยเงิน และเป็นผู้เสียหาย คือถูกทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับเจ้าของเงินที่เป็นทั้ง ผู้ก่อเหตุ คือทำร้ายเด็กหญิง และผู้เสียหายที่ถูกเด็กขโมยเงิน
อย่างไรก็ตามในการสอบปากคำต้องรอสหวิชาชีพและนักสังคมสงเคราะห์ มาสอบให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนโพสต์นั้นถูกลบไปแล้วแต่ตำรวจได้ก๊อปปี้แล้วบางส่วนและจะติดตามหาคนที่นำไปลงเฟซ