svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

(คลิปข่าว) ลูกหนี้สุดทน แฉ "รอง สว.บางยี่ขัน" เป็นนายทุนดอกโหด

10 ตุลาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

(ชมคลิปเต็มด้านล่าง) เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2561 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล น.ส.เกศรินทร์ สมบรูณ์ แม่ค้าขายพวงมาลัย พร้อมผู้เสียหายอีก 3 ราย ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รรท.รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้างานปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบ หลังพลาดพลั้งกู้เงินนอกระบบจาก ร.ต.ท.สมยศ จุลเจริญดุยล์ รอง สว.(สอบสวน) บางยี่ขัน โดยไม่มีสัญญากู้เงิน โดยถูกทวงหนี้ไม่เป็นธรรม ซ้ำยังถูกข่มขู่สารพัดรูปแบบด้วยถ้อยคำต่างๆ นานา

น.ส.เกศรินทร์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายดอกไม้ใกล้ๆ ห้างพาต้าปิ่นเกล้า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีลูกค้าที่รู้จักกันบอก ว่า ร.ต.ท.สมยศ เป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบ ตนจึงชวนเพื่อน 2 คนไปร่วมกู้เงินกับ ร.ต.ท.สมยศ เป็นเงินต้นทั้งสิ้นจำนวน 20,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 และต้องส่งเงินรายวันให้แก่ ร.ต.ท.สมยศ วันละ 1,000 บาท จำนวน 24 วัน รวมทั้งต้นทั้งดอกเป็นเงิน 24,000 บาท ซึ่งหลักฐานในการกู้เงินนั้นทาง ร.ต.ท.สมยศ บอกว่า ต้องใช้บัตรประชาชนของตนเพียงคนเดียวก็พอ เพื่อลงรายละเอียดลูกหนี้ในสมุดบันทึกของ ร.ต.ท.สมยศ แต่ไม่มีการออกสัญญาเงินกู้เป็นลายลักษณ์อักษรให้แต่อย่างใด

น.ส.เกศรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากกู้เงินมาแล้ว อีกไม่กี่วันต่อมาเพื่อนตนทั้ง 2 คนที่เป็นผู้กู้ร่วมก็ได้หลบหนีไป ทำให้ตนต้องหาเงินจ่ายหนีรายวันเพียงลำพัง วันละ 1,000 บาท กระทั่งไม่สามารถหาเงินส่งได้ทัน ขาดส่งต่อเนื่องหลายวันบ้าง บางวันก็มีเงินส่งให้บ้าง ทาง ร.ต.ท.สมยศ จึงไม่ยอมหักลบกลบหนี้ให้ ซ้ำร้ายยังให้ตนกลับไปเริ่มส่งเงินทั้งต้นและดอกคืนใหม่ทั้งหมดอย่างเลือดเย็น และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ตนผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ตนต้องหาเงินรายวันวันละ 1,000 บาท มาจ่ายให้ ร.ต.ท.สมยศ แบบไม่มีวันสิ้นสุด คิดจะไปแจ้งความเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้า เพราะนายทุนก็เป็นตำรวจในพื้นที่ กระทั่งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตนมีเรื่องเดือดร้อนต้องใช้เงินจุนเจือครอบครัว และต้องการหาเงินมาลงทุนในการค้าขาย โดยคาดหวังว่าจะได้กำไรมาใช้หนี้ค้างเก่าที่ค้างอยู่กับ ร.ต.ท.สมยศ ให้ได้ทั้งหมด"จึงตัดสินใจวัดดวงขอกู้เงินกับ ร.ต.ท.สมยศ อีกก้อน จำนวน 15,000 บาท ซึ่งการกู้เงินในครั้งนี้ ร.ต.ท.สมยศ ให้ตนชำระดอกเบี้ยแบบดอกลอย ส่งเงินให้วันละ 300 บาท หากมีเงินต้นไปคืนเมื่อไหร่ จึงถือว่ายุติหนี้สินยอด 15,000 บาทนี้ต่อกัน ทำให้ตนต้องหาเงินส่งให้ ร.ต.ท.สมยศ เพิ่มเติมจากหนี้เดิมที่เคยร่วมกู้กับเพื่อน เป็นเงินทั้งสิ้น วันละ 1,300 บาท พอตนส่งไปได้ 15 วัน รวมเป็นเงิน 19,500 บาท การเงินตนก็เกิดสะดุดอีก เพราะของขายไม่ดี จึงหยุดส่งไปเป็นเวลา 2 วัน ทำให้ ร.ต.ท.สมยศ โวยวายไม่ยินยอมและบอกยกเลิกเงินจำนวนที่ตนได้ส่งไปก่อนหน้านั้นทั้งหมด แถมยังให้ตนกลับไปเริ่มต้นส่งใหม่อีกครั้ง อย่างนายทุนหน้าเลือดไร้เหตุผล ซ้ำร้ายยังมายืนด่าทอตน เสียๆ หายๆ ที่หน้าร้าน และขู่ว่าจะหาคนมาอุ้ม จนตนต้องชักชวนลูกหนี้รายอื่นๆ ที่มีชะตากรรมคล้ายๆ กัน เดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาที่ บช.น." น.ส.เกศรินทร์ กล่าว
ทางด้าน นายสายัณห์ โคตรคำ อายุ 37 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง อีก 1 ในเหยื่อเงินกู้รองสารวัตรดอกเบี้ยโหด กล่าวว่า ตนยื่นบัตรประชาชนเป็นหลักฐานขอกู้เงินกับ ร.ต.ท.สมยศ มาจำนวน 5,000 บาท โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เงื่อนไขคือ ยอมจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างหาเงินส่งให้ 24 วัน วันละ 250 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 6,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนส่งไปแล้ว 12 วัน ไม่เคยขาดส่งแม้แต่วันเดียว กระทั่งงวดที่ 13 ร.ต.ท.สมยศ ได้บอกให้ตนหยุดส่งเงินก่อน โดยให้เหตุผลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับปราบปรามเข้ามาระดมกวาดจับนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จากนั้นคล้อยหลังไปได้ประมาณเกือบ 1 เดือนพอเรื่องตำรวจนอกหน่วยระดมจับนายทุนเงินกู้เงียบลง ตนก็กลับมาส่งเงินคืนให้ ร.ต.ท.สมยศ ต่ออีก 12 งวด จนครบ 24 งวดตามสัญญาปากเปล่า แต่ ร.ต.ท.สมยศ ไม่ยอม อ้างว่าเมตตาให้ผิดสัญญามานานมากแล้ว และขอยกเลิกยอดเงินที่ตนเคยส่งก่อนหน้านี้ และจะมาเริ่มเก็บเงินใหม่ทั้งหมดอย่างไร้มนุษยธรรม
ขณะที่ พล.ต.ต.คัชชา กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้ทาง พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาดโสภณ ผกก.สน.บางยี่ขัน เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่า ร.ต.ท.สมยศ จุลเจริญดุยล์ รอง สว.(สอบสวน) บางยี่ขัน มีการกระทำความผิดจริง จะต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัย ซึ่งโทษทางอาญาคือ "เรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด" ส่วนโทษฐานทางวินัยนั้นถึงขั้นให้ออกจากราชการ
มีรายงานข่าวว่า สำหรับ ร.ต.ท.สมยศ นายทุนเงินกู้รายนี้นั้น เป็นคนชอบสะสมทองคำรูปพรรณ นอกจากจะปล่อยเงินกู้ให้พ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้านย่านถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าแล้ว ยังปล่อยเงินกู้ให้ข้าราชการตำรวจด้วยกันทั้งใน สน.บางยี่ขัน และ สน.ข้างเคียงอีกหลายราย หากเพื่อนตำรวจรายใดผิดนัดไม่มีเงินชำระหนี้ก็จะโวยวายด่าทอเสียๆ หายๆ จนลูกหนี้เกิดความอับอาย ที่ผ่านมามีผู้บังคับบัญชาในโรงพักทราบเรื่องเคยเรียกไปตักเตือนแล้วแต่ไม่เป็นผล กระทั่งชาวบ้านที่หมดหนทางต้องตัดสินใจรวมตัวกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

logoline