แจ้ง6ข้อหา-ค้านประกันปลัดอำเภอ’ล่าหมี’อช.ไทรโยค

หลังจากเหตุกลุ่มออฟโรด จำนวน 15 คน ใช้รถ 6 คัน เข้าไปล่าสัตว์ป่าบริเวณป่าเขาปลาน้อย ม.8 ต.วังกระแจะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ในช่วงคืนวันที่ 6 ต.ค.โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านว่าขออนุญาตหัวหน้าฯ แล้วนั้น จนวันรุ่งขึ้น (7 ต.ค.) เจ้าหน้าที่พบคณะออฟโรดที้งหมดเส้นทางทุ่งมะเซอย่อ-เขาปลาน้อย ม.8 ต.วังกระแจะ ลักษณะตรงกับที่ได้รับรายงาน ขับสวนอกมาจากป่า จึงแสดงตัวตรวจค้น และภายในรถปิกอัพกระบะโฟร์วิลยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 2 ฒง 3555 มีนายอนุสรณ์ เรือนงาม เป็นคนขับ พบขาหมีขอหรือบินตุรง 4 ขา เผารมควัน น้ำหนัก 9.2 ขีด อาวุธปืนลูกกรดยาวยี่ห้อซีแซด ขนาด.22 แอลอาร์ ติดกล้อง ด้านปลายกระบอกติดท่อเก็บเสียง 1 กระบอก อยู่นอกซองลักษณะพร้อมใช้งาน กระสุน 34 นัด อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกยี่ห้อกร็อก 1 กระบอกกระสุน 15 นัด กระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16 อีก 20 นัด จึงเชิญบุคคลทั้งหมดโดยในจำนวนนี้มีผู้แสดงตัวเป็นปลัดอำเภอ และอส.ใน จ.กาญจนบุรี ไปยังที่ทำการอุทยานฯไทรโยค


นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถ และคน โดยละเอียด ณ ที่ทำการอุทยานฯไทรโยค ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มอีก จึงเชิญบุคคลทั้งหมดเพื่อสอบสวนให้ปากคำ โดยนายวัชรชัย สมีรักษ์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 300 ม.1ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งทราบว่าเป็นปลัดอำเภอ แห่งหนึ่งในพื้นที่จ.กาญจนบุรี ไม่ยอมเข้าห้องที่ทำการ อ้างว่าไม่ได้กระทำผิดล่าสัตว์ป่า ทั้งหมดร่วมกันเดินทางไปทำบุญที่วัดเหมืองเต่าดำ นายอนุสรณ์ บอกว่าในระหว่างทาง ได้ซื้อซากสัตว์ป่าจากชาวบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ แต่หากเจ้าหน้าที่อุทยานฯจะตรวจค้นหรือให้ปากคำใดๆ ต้องให้นายตำรวจสัญญาบัตรมาดำเนินการ  

ดังนั้น นายพนัชกร จึงประสาน พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค พร้อมร.ต.อ.อภิชัย พุ่มชัย รองสว.(สอบสวน) เดินทางมาตรวจค้นตัวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว โดยเฉพาะกระเป๋าสะพายที่นายวัชรชัย ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ค้น และพบอาวุธปืนพก ออโตเมติกซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม.พร้อมกระสุนในแม็กกาซีน 16 นัด จากนั้น นายพนัชกร ได้แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลทั้งหมด 6 ข้อหา ดังนี้


1.เก็บหานำออก ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ 2.นำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ 3.นำยานพาหนะเข้าออก หรือขับ ขี่ยานพาหนะ ในทางที่มิได้จัดไว้ เพื่อการนั้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใด ๆ  เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ 


5. ร่วมกันล่าสัตว์ป่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา26 6. ร่วมมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยมิได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฐานครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ดังกล่าว ขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกลุ่มบุคคลทั้ง12คนประกอบด้วย 
1.นายวัชรชัย สมีรักษ์ 300 ม.1ต.ท่าขนุนอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่ทราบว่าเป็นปลัดอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี
2.นางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม 5 ม.7 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
3.นายทัศดนัย ขอกระโชก 135/2 ม.7 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
4.นายฉัตรชัย เกาะลอย 61/2  ม.1 ต.ด่านมะขามเตี้ย  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
5.นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ 2/1  ม. 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
6.ว่าที่ ร.ต.สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง 378 ม. 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
7.นายวุฒิพงษ์ เต็มธนัน 170/1  ม.4 ต.หนองไผ่  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
8.นายสกานต์ แก่งหลวง 36/2 ม. 3 ต.จรเข้เผือก  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
9.นายอนุสรณ์ เรือนงาม 161/2 ม.3 ต.ปากแพรก  อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  
10.นายประสาน เต็มธนัน 32/1 ม.2 ต.คุ้งน้ำวน  อ.เมือง จ.ราชบุรี 
11.นางอรุณ แสงใส 170/1  ม.4  ต.หนองไผ่  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 
12.นายถาวร เซี่ยงหลิว 68/3  ม.1 ต.ด่านมะขามเตี้ย  อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค ดำเนินคดี


ล่าสุด 07.00 น.วันนี้ (8 ต.ค.) ที่สภ.ไทรโยค พนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา โดยหัวหน้าอุทยานฯไทรโยค คัดค้านการประกันตัว แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่


นายพนัชกร เปิดเผยเนชั่นทีวีว่า เช้าวันนี้เขากลับมาจากสภ.ไทรโยค เพื่อเตรียมตัวเข้าไปยังจุดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเข้าไปพักแรมคือวัดเหมืองเต่าดำ เพื่อสอบถามเจ้าอาวาสถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหากลับนี้ และยังเชื่อว่าจะพบหลักฐานการล่าและการทิ้งร่อยรอยในจุดเกิดเหตุ ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 70 กม.ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง