ปธ.กก.อิสลามสงขลาชี้ "อารีด" ควรได้รับความเป็นธรรม

จากกรณี นายอารีด หมัดอะดั้ม ผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลาม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากรณีตำรวจสายตรวจชุดวิหค สภ.หาดใหญ่ จับกุมตัวเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเรียกรับเงิน 5,000 บาทแลกการปล่อยตัวแต่เมื่อไม่ยอมจ่ายจึงโดนยัดข้อหาเสพยาเสพติด อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และจากผลตรวจปัสสาวะของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ยืนยันว่า นายอารีด ไม่มีสารเสพติด แต่นายอารีด ต้องถูกคุมขังรวม 5 วัน ถูกชุมชนมุสลิมรังเกียจ กระทั่งคนทั่วไปทราบความจริงจากข่าวเนชั่นทีวี ทำให้เพื่อนบ้านเห็นใจและเข้าใจว่าโดนกลั่นแกล้ง ล่าสุด นายอารีด นางอาอิฉ๊ะ หมัดอะดั้ม ร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ ผู้ช่วยเหลือเหยื่อทางคดีอาญา และ ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ เดินทางไปที่สำนักงานอัยการภาค 9 จังหวัดสงขลา และกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เพื่อติดตามเรื่องคดีและร้องขอความเป็นธรรม รวมถึงให้ย้ายผู้กำกับสภ.หาดใหญ่ ออกนอกพื้นที่


นอกจากนั้น นายอารีด พร้อมทีมทนายความ ได้เข้าพบนายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อให้ทราบ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุตำรวจสายตรวจหาดใหญ่ หรือชุดวิหค จับกุมเรียกรับเงิน 5,000 บาท และยัดข้อหาว่าเสพยาเสพติดให้โทษ จนพิสูจน์ว่านายอารีด ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย นายอารีด ยังไม่ได้รับการขอโทษจากตำรวจชุดจับกุม และรวมถึง พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ นั้นปล่อยปละละเลย ไม่กวดขันควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชา ชุดสายตรวจวิหคทั้ง 4 ชุด ของ สภ.หาดใหญ่ ได้ตั้งด่านตรวจเรียกรับ และรีดเงินจากผู้ที่จับกุมจำนวนมากเพื่อแลกกับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ


ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้สอบถามความคืบหน้าคดีว่าไปถึงไหน ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความแจ้งว่า ได้เข้าพบอัยการจังหวัดสงขลาแล้วอัยการแจ้งว่าจะมีความเห็นในคดีไม่เกินวันพุธหน้า


นายศักดิ์กรียา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีอย่างนี้ผู้เสียหาย ถ้ผู้บังคับบัญชาตำรวจนิ่งนอนใจหรือเพิกเฉยก็มีสิทธิยื่นขอความเป็นธรรม ซึ่งร.ต.อ.วัชรินทร์ เบญจทศวรรษ ผู้ช่วยเหลือเหยื่อทางคดีอาญา แจ้งต่อนายศักดิ์กรียา ว่า ได้ดำเนินยื่นไปแล้ว


ทั้งนี้ กรณีสายตรวจชุดวิหคหาดใหญ่ มีผู้เสียหายจำนวนมากส่งมอบพยานหลักให้แก่ทีมงานทนายความ และ ถึงการทุจริตเรียกรับ และมีการเปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชี ในนามของอาสาสมัครตำรวจชุมชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้แก่หัวหน้าชุดนายตำรวจสัญญาบัตร ทั้ง 4 ชุด โดยมีการโอนเงินจากผู้ถูกเรียกรับเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ นับล้านบาท ทำเช่นนี้มายาวนาน โดยเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาเพิกเฉย เนื่องจากหัวหน้ายศ ร.ต.อ.เคยกระทำการทุจริตมาแล้วหลายครั้ง และ พ.ต.อ.กิตติชัย เคยลงโทษ ย้ายนายตำรวจรายดังกล่าว ในเรื่องของการทุจริตเรียกรับมาแล้ว ตั้งแต่พื้นที่อำเภอสะเดา จนกระทั่งมาก่อเหตุซ้ำๆ อีกที่สภ.หาดใหญ่


คณะกรรมการอิสลาม อ.บางกล่ำ และนายอารีด เห็นควรให้ย้าย ผกก.สภ.หาดใหญ่ ออกนอกพื้นที่พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้นออกรอกพื้นที่ด้วย จนกว่าการสอบสวนวินัยร้ายแรงของทางภาค9 เสร็จสิ้นมีมติลงโทษ ตำรวจชุดจับกุมต่อไป