ศาลยกคำร้อง! ไต่สวนฉุกเฉินปมรถตู้ - "ศรีสุวรรณ" เตรียมร้องนายกฯ

ที่ศาลปกครอง ต่อมาเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินกรณีที่รถตู้จำนวนมากต้องหมดอายุไม่สามารถวิ่งบริการรับส่งผู้โดยสารได้ ว่า ศาลได้มีคำสั่งออกมาแล้วว่า ศาลได้พิจารณาคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการหรือวิธีการอย่างใดใดชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ฉบับวันที่ 28 กันยายน 2561 ของผู้ฟ้องคดีทั้ง 731 คน เรียบร้อยแล้ว กรณียังฟังไม่ได้ว่ามีเหตุฉุกเฉินตามคำร้อง ศาลจึงสั่งมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าวและศาลจะพิจารณามีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอวิธีการชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษา ของผู้ฟ้องคดีทั้ง 311 คน ต่อไป จึงแจ้งมาเพื่อทราบ

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า สรุปก็คือวันนี้ศาลได้ยกคำร้องที่จะขอไต่สวนฉุกเฉิน การต่อสู้คดีก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อไป และศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวออกมาหลักจากนี้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการรถตู้ก็คงไม่นิ่งเฉยคงต้องพยายามแสวงหาทางที่จะปกป้องและเรียกร้องสิทธิของตัวเองต่อไป ส่วนจะเป็นวิธีการใดก็จะต้องพูดคุยปรึกษาหารือกัน เช่น อาจจะต้องไปขอความเมตตาจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในเรื่องดังกล่าว หรือแม้อาจจะต้องฟ้องร้องคดีเพิ่มเติม เนื่องจากว่าบางคนได้ไปเสียภาษีประจำปีแล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกก็ได้ต่ออายุการเสียภาษีประจำปีให้ ซึ่งเมื่อได้ภาษีประจำปีมาก็ได้ไปเสียค่าประกัน ค่าจีพีเอส ฯลฯ มีมูลค่าหลายหมื่นบาท แต่เมื่อมากำหนดให้หยุดวิ่ง เงินที่เขาสูญเสียไปบางราย 3-4 หมื่นบาท จะทำอย่างไร ซึ่งเขาก็ไปเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกคืนเงินก็ไม่ยอมคืน เรื่องนี้ก็อาจจะต้องฟ้องอธิบดีกรมการขนส่งทางบกเพื่อเรียกเงินคืน เมื่อกรมการขนส่งทางบกไม่อนุญาตให้วิ่งรถต่อไปได้ เพราะฉะนั้นเงินที่เสียไปเนื่องจากกรมการขนส่งทางบกต่อทะเบียนอายุรถให้ก็จำเป็นที่จะต้องเรียกคืน

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ผู้ประกอบเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่ามีรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่น อีกจำนวนมากที่มีอายุการวิ่งมากกว่า 10 ปี แต่กรมการขนส่งทางบกก็ยังอนุญาตให้วิ่งต่อไปได้ จึงเป็นการเลือกปฏิบัติ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายในการฟ้องร้อง เพื่อรักษาสิทธิของผู้ประกอบการรถตู้ต่อไป

ด้านนางรุ่งเรือง ทองคำ ประชาสัมพันธ์สมาคมรถตู้ต่างจังหวัด กล่าวว่า วันนี้เมื่อสิ่งที่พวกเราเรียกร้องไปไม่ได้คือขอให้ช่วยเหลือเยียวยา หมวด 1 เราขอให้ขยายอายุรถ เมื่อไม่ให้นั้นคือประเด็นที่หนึ่ง ส่วนหมวด 2 หมวด 3 ที่มากันในวันนี้ เพื่อต้องการที่จะขอเปลี่ยนจากรถตู้เป็นมินิบัส ซึ่งพวกเราไม่ไหวเพราะการเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสมีค่าใช้จ่ายสูง 1 คัน ราคาประมาณ 3 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้ 20 คน รถตู้ 1 คัน ราคา 1.3 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้ 13 คน โดยจะขอเปลี่ยนให้รถตู้เปลี่ยนเป็นรถตู้ แต่วันนี้เรามาพึ่งศาลเพื่อให้ช่วยเยียวยาผ่อนผันอนุโลมว่ารถที่หมดอายุวิ่งต่อได้ไหม เมื่อวันนี้ศาลบอกมาว่าไม่ได้ สิ่งที่หมวด 2 ขอต่อไปคือ เมื่อรถ 10 ปี วิ่งไม่ได้ ก็ขอให้เปลี่ยนรถตู้เป็นรถตู้ แทนการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัส โดยก่อนหน้านี้หมวดจ. ที่อนุมัติหมวด 2 มา คือให้ 1 บัส เปลี่ยนเป็นรถตู้ได้ 3 ตู้ ท่านอนุมัติมาได้อย่างไร มาวันนี้บอกว่ารถตู้ไม่มีคุณภาพจะให้ยกเลิกเอาอะไรมาตัดสิน โดยอีก 2 ปีจะมีรถตู้ที่หมดอายุไม่สามารถวิ่งได้อีก 4,000 คัน ประกอบด้วยในปี 2562 จะมีรถตู้ที่หมดอายุอีก 2,000 คัน และปี 2563 จะหมดอายุอีก 2,000 คัน