หนุ่มวัย 18 ปี ทำงานเป็นคนจุดตะเกียงล่อปลาบนเรือนแพจับปลาที่ลอยอยู่นอกชายฝั่งอินโดนีเซีย 125 กม. แต่เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำจนทำให้เชือกที่ยึดแพไว้กับสมอที่ก้นทะเลขาดลง ส่งผลให้แพถูกกระแสน้ำพัดลอยไปไกลหลายพันกิโลเมตรจนเกือบถึงเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก
ซึ่งตามปกติแล้ว แพของ "อัลดี" จะได้รับอาหาร เครื่องประทังชีวิต และคอยส่งปลาให้กับ บริษัทเจ้าของแพ ซึ่งอยู่บนหนึ่งในเรือนแพจำนวน 50 หลังของบริษัท ที่กระจายอยู่นอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสี
ตอนที่แพของอัลดีถูกกระแสน้ำพัดออกไปเขามีเสบียงเหลืออยู่ไม่มาก ทำให้เขาต้องจับปลาแล้วใช้รั้วไม้ของแพเป็นเชื้อเพลิงในการทำอาหารหลังจากแก๊สหุงต้มหมด เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่อินโดนีเซียที่นครโอซากาของญี่ปุ่น บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า อัลดีใช้วิธีจิบน้ำจากเสื้อผ้าที่นำไปชุบน้ำทะเล