พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโกรกกราก เจ้าคณะตำบลโกรกกราก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้ติดใจเอาความและไม่อยากจะเอาเรื่องในทางคดี แค่อยากให้ผู้ก่อเหตุนั้นกลับตัวกลับใจ หากินสุจริต ประพฤติตนเป็นคนดี ไม่อยากให้ไปก่อเหตุลักขโมยเงินไม่ว่าจะมาจากการทำบุญหรือเงินของผู้อื่น ซึ่งจะเป็นการสร้างบาปให้กับตัวเอง และเหตุการณ์เช่นนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทุกครั้งที่ผ่านมาทางวัดก็ไม่เคยติดใจเอาความ และให้อภัยเสมอ แต่จะเป็นคนเดียวกันหรือไม่นั้นก็ไม่สามารถบอกได้
ด้านนายปรีชา ฤกษ์ดี อายุ 62 ปี คณะกรรมการวัดโกรกกราก และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณตอนเที่ยง ของเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 ซึ่งตนเองได้ทำหน้าที่อยู่บริเวณหน้าโบสถ์ ส่วนด้านในโบสถ์กมีคนเข้ามาทำบุญไม่มากนัก และขณะนั้นเองก็มีหญิงสาวตามภาพในกล้องวงจรปิดเข้าไปในโบสถ์หลวงพ่อปู่วัดโกรกกราก ที่ตั้งผ้าป่าสายสวรรค์สร้างอุโบสถไว้ ซึ่งภายในโบสถ์นั้นมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายมุมด้วยกัน เพื่อให้คณะกรรมการที่อยู่ด้านนอกได้คอยดูภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ซึ่งก็ทำให้เห็นพฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้ ว่าได้เดินวนเวียนอยู่ใกล้เคียงกับต้นผ้าป่าหลายรอบก่อนที่จะเอื้อมมือขึ้นไปถึงธนบัตรชนิดราคา 100 บาทลงมา
ทั้งนี้ตนเองเห็นว่าน่าจะเป็นการกระทำเพื่อลักทรัพย์จึงเดินเข้าไปหาก็เห็นในมือหญิงคนดังกล่าวมีธนบัตรที่ดึงลงมา จึงถามว่าดึงเงินลงมาทำไม หญิงสาวก็โกหกบอกว่าไม่ได้ดึง แต่เงินมันหล่นลงมาเอง ตนจึงบอกไปว่า จะหล่นลงมาเองได้อย่างไร ก็แบงค์มันขาดอย่างที่เห็น ทั้งนี้พอหญิงสาวเห็นท่าทีไม่ดีแล้ว ก็มีอาการตกใจกลัวจึงได้รีบวางเงินไว้แล้วก็เดินออกไปทันที จากนั้นก็ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป โดยคาดว่าน่าจะยังมีเงินผ้าป่าของวัดอยู่ที่มารศาสนารายนี้อีกประมาณ 400 - 500 บาท ซึ่งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภเมืองสมุทรสาคร ก็ได้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว พร้อมกันนี้ยังฝากเตือนไปยังวัดต่างๆ ให้ระวัง หญิงสาวมารศาสนารายนี้ เพราะอาจจะไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวที่วัดอื่นๆได้