หรืออาจเป็นระเบิดติดเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติการซ้อมรบแต่ระบบไม่ทำงานจนชาวบ้านไปเก็บมาขายเป็นของเก่า โชคดีเจ้าของร้านแจ้งเจ้าหน้าที่ทันก่อนที่คนงานกำลังจะใช้เครื่องพ่นไฟตัดแยกชิ้นส่วนขาย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 กันยายน 2561 พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ ผกก.สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รองผกก.(สอบสวน) สภ.กมลาไสย ร.ต.อ.ภูดิส ชัยชนะ หัวหน้าชุด DOD กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ ร.ท.ก่อเกียรติ ทิ้งแสน ปลัดอำเภอฆ้องชัย พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฆ้องชัย สภ.กมลาไสย เจ้าหน้าที่ DOD ฝ่ายปกครองและกำลังทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์
เข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดภายในร้านกฤติภาอะไหล่ เลขที่ 61 ม.5 ถนนโพนทอง-ยางตลาด ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นร้านที่รับซื้อของเก่าแล้วมาคัดแยกขายเป็นอะไล่รถยนต์เก่า หรือร้านเซียงกง และอย่ารอยต่อระหว่าง อ.กมลาไสย กลับ อ.ฆ้องชัย หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านว่าพบวัตถุคล้ายระเบิดขนาดใหญ่ 2 ลูก ผสมอยู่ในกองเศษเหล็กภายในร้าน
โดยจากการตรวจสอบพบเป็นร้านรับซื้อของเก่าทั้งเศษเหล็ก ซากรถยนต์ และชิ้นส่วนต่างๆแล้วนำมาแยกชิ้นส่วนขายเป็นอะไหล่เก่า หรือเรียกกันว่าร้านเซียงกง ซึ่งบริเวณกองเศษเหล็กหลังร้าน เจ้าหน้าที่พบระเบิดขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 1.30 เมตร จำนวน 2 ลูก และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิด ชนิดทิ้งจากอากาศสู่พื้นดิน รุ่นMark-82 หรือระเบิดที่ติดกับเครื่องบินรบ น้ำหนักลูกละไม่ต่ำกว่า 227 กิโลกรัม หรือประมาณ 500 ปอนด์ รวม 2 ลูก น้ำหนักกว่า 1,000 ปอนด์
ซึ่งสภาพยังใช้งานได้ เนื่องจากยังมีดินระเบิดอยู่เต็ม เจ้าหน้าที่จึงทำการนิรภัยและเก็บกู้นำไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย เพื่อรอการทำลายทิ้ง โดยการเคลื่อนย้ายต้องทำอย่างระมัดระวัง และเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากลูกระเบิดทั้ง 2 ลูกมีน้ำหนักมากและยังมีอันตราย มีอานุภาพทำลายล้างสูง
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นระเบิดทั้ง 2 ลูกนี้คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดที่ติดอยู่กับเครื่องบินรบที่ใช้ทำลายตึกและทำลายสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีอานุภาพทำลายล้างสูงของกองทัพอากาศที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะถูกนำมาใช้ในการซ้อมรบแต่ระบบไม่ทำงาน หรือไม่อาจจะเป็นระเบิดเก่าที่ติดเครื่องบินรบที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่จะได้สืบหาแหล่งที่มาอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการสอบถามนายสำเนียง วิมาเณย์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า สำหรับระเบิดทั้ง 2 ลูกที่อยู่ในร้านนั้น ก่อนเกิดเหตุตนให้คนงานไปรับซื้อของเก่าเศษเล็ก และเครื่องยนต์เก่าจากแหล่งรับซื้อของเก่าเจ้าประจำในพื้นที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น แต่ระหว่างที่รับซื้อและขนย้ายมาไว้ที่ร้านไม่มีใครเห็น เนื่องจากเศษเหล็กกับลูกระเบิดผสมกันอยู่ กระทั่งเมื่อนำมากองรวมกันไว้ที่ร้าน เพื่อที่จะทำการคัดแยก และระหว่างคนงานกำลังจะทำการแยกชิ้นส่วน
ตนสังเกตเห็นวัตถุผิดปกติ เนื่องจากคล้ายกับระเบิดขนาดใหญ่ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย กระทั่งพบว่าเป็นระเบิดของจริง ซึ่งขนาดน้ำหนักรวมกัน 2 ลูกกว่า 1,000 ปอนด์ โชคดีที่คนงานไม่ได้ทำการคัดแยกโดยใช้แก๊สตัด ซึ่งอาจจะเป็นการจุดชนวนจนทำให้ระเบิดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนไปยังผู้มีอาชีพรับซื้อของเก่าและขัดแยกชิ้นส่วนขายอะไหล่เก่า โดยเฉพาะร้านเซียงกง ต้องหมั่นตรวจสอบ และหากพบวัตถุสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความปลอดภัยทันที