ทั้งนี้ที่ผ่านมานโยบายของแต่ละพรรคล้วนมาจากความคิดของแกนนำพรรคทั้งสิ้น เป็นการคาดเดาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้นว่าประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนเรื่องอะไรแล้วก็นำวิธีการแก้ปัญหาไปนำเสนอ เปรียบเหมือนกับการไปถามประชาชนว่าอยากได้อะไรมากกว่ากันระหว่างไก่กับไข่ น้อยมากที่จะไปถามชาวบ้านตรงๆ ว่าอยากให้พรรคการเมืองทำอะไรให้ ดังนั้น ควรเอาเวลาที่แต่ละพรรคมักจะพูดเสมอว่าไม่เพียงพอสำหรับการหาเสียงนั้น ไปคิดนโยบายและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพรรคตามที่กฎหมายกำหนดจะดีกว่ามาตั้งแง่สร้างเงื่อนไขว่าการคลายล็อกยังไม่เพียงพอ จะต้องปลดล็อกทั้งหมด
นายธนกร ยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสมาชิกกลุ่มสามมิตรบางคนกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย จนมีความพยายามจะขยายผลให้เกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างแกนนำกลุ่มสามมิตรกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยด้วยว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ไม่เคยให้สัมภาษณ์พาดพิงพรรคการเมืองไหนเลย เพราะต้องการเน้นไปที่การรับฟังปัญหาและการหาทางช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก รวมไปถึงการสร้างความปรองดองให้คนในชาติ
อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าแกนนำกลุ่มสามมิตรกับพรรคภูมิใจไทยนั้นไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ขณะที่การแสดงความเห็นหรือการกระทำใดๆ ของสมาชิกกลุ่มสามมิตรคนใดคนหนึ่งนั้นถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่สามารถจะไปบังคับกันได้ เป็นเรื่องแต่ละพื้นที่ที่เขาอาจจะไปพบความไม่ชอบมาพากลในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของกกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องตรวจสอบ และหากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มสามมิตรนั้นยืนยันว่าขณะนี้ยังมีเวลาดูว่านโยบายของพรรคการเมืองไหนที่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหาให้กับประชาชนของกลุ่มสามมิตร เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีคำตอบให้กับประชาชนอย่างแน่นอน