เด็กหญิงนีลเซน บอกบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) ว่า เพลง แอดวานซ์ ออสเตรเลีย แฟร์ ถูกเขียนขึ้นมาดั้งเดิมเพื่อสรรเสริญความก้าวหน้าของชนผิวขาวออสเตรเลีย ท่อนที่บอกว่า "we are young (เรายังเยาว์) ไม่คำนึงถึงชนพื้นเมืองออสเตรเลียที่มาที่นี่ก่อนพวกเรา 5 หมื่นปีอย่างสิ้นเชิงและเธอบอกกับ ไนน์นิวส์ ว่า "หนูไม่ใช่คนที่สักแต่ยึดตามกฎของผู้ใหญ่แค่เพราะว่าพวกเขาอายุมากกว่า"
วัฒนธรรมชนอะบอริจินส์อายุเก่าแก่หลายหมื่นปี ก่อนที่ชาวอังกฤษเริ่มเข้าไปตั้งรกรากในออสเตรเลียปลายคริสต์ทศวรรษ 1700 แต่ปัจจุบัน อะบอริจินส์เป็นชาวออสเตรเลียด้อยโอกาสที่สุด อัตราความยากจนสูง มีปัญหาสุขภาพและถูกจำคุกมากกว่าคนกลุ่มอื่นในประเทศ
เด็กหญิงกล่าวว่า เธอปรึกษาพ่อแม่ในเรื่องนี้ แต่ตัดสินใจประท้วงด้วยตัวเอง
ด้านนายมาร์ค นีลเซน บิดาของเด็ก ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยควีนสแลนด์ กล่าวว่า ลูกสาวแสดงความกล้าในการแสดงออกถึงการยึดมั่นในสิ่งที่ตนเองคิดได้อย่างเหลือเชื่อ และเขาภูมิใจในตัวของเธอ ลูกสาวพยายามปลุกสำนึกและทำให้ผู้คนคิดถึงการเหยียดผิวอย่างเป็นสถาบัน
ขณะที่สำนักงานการศึกษารัฐควีนสแลนด์ ระบุว่า ครูใหญ่ได้ประชุมร่วมกับฮาร์เปอร์และพ่อแม่ เพื่อหารือทางเลือกอื่นในการประท้วง โรงเรียนเคารพความคิดของนักเรียนและเสนอทางเลือกอื่นให้ เช่น อยู่นอกห้องประชุม และปฏิเสธข่าวที่ว่าเด็กหญิงฮาร์เปอร์ถูกพักการเรียนหรือไล่ออก
จุดยืนเรื่องเพลงชาติของเด็กหญิง 9 ขวบ ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกับบรรดานักอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล ที่ประท้วงกระแสเหยียดผิวด้วยการคุกเข่าแทนการยืนขณะบรรเลงเพลงชาติสหรัฐ จุดกระแสไม่พอใจในหมู่ชาวออสเตรเลียสายอนุรักษ์นิยม อลัน โจนส์ อดีตนักรักบีทีมชาติที่ผันมาเป็นนักจัดรายการวิทยุ บอกพ่อแม่ควรพาลูกออกจากโรงเรียนหากทำตามระเบียบไม่ได้ ส่วนพอลีน แฮนสัน นักการเมืองหญิงขวาจัดชื่อดัง เรียกฮาร์เปอร์ว่า ตัวแสบ ที่ถูกล้างสมอง และสนับสนุนให้โรงเรียนไล่ออก