เธอกล่าวยอมรับว่า มีหลายหนทางที่รัฐบาลน่าจะจัดการสถานการณ์ในรัฐยะไข่ได้ดีกว่านี้ แต่เชื่อว่าในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงระยะยาว จึงควรให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และรัฐบาลไม่อาจเลือกได้ว่าใครควรได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมาย นอกจากนี้สำหรับปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรมีส่วนรับผิดชอบ และแม้รัฐบาลมีอำนาจเพียง 75% แต่ต้องรับผิดชอบ 100%
กองทัพเมียนมาร์ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมและข่มขืนชาวโรฮิงญา ตลอดจนเผาบ้านเรือนหลายพันหลังในช่วงการปราบปรามในรัฐยะไข่เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ทำให้ชาวโรฮิงญาราว 7 แสนคนหนีออกนอกประเทศ
ขณะเดียวกันนางซูจี แสดงความเห็นโดยตรงครั้งแรกต่อการลงโทษจำคุกนักข่าว รอยเตอร์ส 2 คนเป็นเวลา 7 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกล่าวปกป้องคำตัดสินของศาลว่า พวกเขาไม่ได้ถูกจำคุกเพราะเป็นนักข่าว แต่เพราะศาลตัดสินว่าทั้งสองคนละเมิดกฎหมายความลับทางราชการ
ขณะที่นักข่าวยืนยันว่าตกเป็นเหยื่อของการจัดฉากที่มีตำรวจนำเอกสารลับมาให้ เพื่อล่อจับ สืบเนื่องจากกรณีที่พวกเขาพยายามสืบเรื่องฆาตกรรมชาวโรฮิงญา 10 ศพในหมู่บ้านอินน์ ดิน เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
และท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่อทั้งสองเรื่องนี้ ทางการเมียนมาร์ยืนยันว่าซูจีจะไม่ไปเข้า ร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสประชาชาติที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยไม่ให้ เหตุผลใดๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ไปร่วมประชุมในปีที่แล้ว