วันที่ 12 กันยายน 2561 ที่ ปากทางเข้าหมู่บ้านขนวน ตำบลสำโรง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ติดกับปั้ม ปตท.นายสุริยา บุตรจินดา นายอำเภออุทุมพรพิสัย, นายปิติ เทพเกษตรกุล นายกเทศบาลตำบลกำแพง ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งปกครองอำเภอ สาธารณสุข โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ - ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน - นักศึกษา ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่53 มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ธรรมสถานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้ร่วมการอบรม และฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เตรียมความพร้อมรับอุบัติเหตุใหญ่ โดยสมมุติให้รถยนต์หกล้อโดยสารนักเรียนมาเต็มคัน วิ่งจากในตัวเมืองอุทุมพรพิสัย ตามถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 226 ที่เป็นถนนสี่เลน มีเกาะกลางถนน รถโดยสารนักเรียนคันดังกล่าว ขณะที่วิ่งมาถึงที่จุดนัดพบ ได้ชนเข้ากับรถบรรทุกแก๊สในลักษณะวิ่งขับแซงปาดหน้าขึ้นมาอย่างกระชัดชิด จึงเกิดเบียดชนกันอย่างแรง เป็นเหตุให้นักเรียนร่วงลงจากรถกองเกลื่อนกลาดเต็มถนน ผู้ที่พบเจอเหตุได้โทรประมานเข้าไปที่ 191 และเบอร์ 1669 เพื่อแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ จากนั้นได้รายงานให้นายอำเภออุทุมพรพิสัยทราบ ก่อนที่จะได้สั่งการโดยทันที
นายสุริยา บุตรจินดา นายอำเภออุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า ในการอบรม และฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เพื่อการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่หากเกิดอุบัติเหตุใหญ่ โดยวันนี้ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วย EMS โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย อปท.กู้ภัย โรงพยาบาล ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด ตำรวจ - ทหาร โดยสมมุติในการเกิดอุบัติเหตุรถนักเรียน ชนรถบรรทุกแก๊ส ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุซ้อนขึ้นมาอีกอย่างคือ ถังแก๊สระเบิด ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนน ของรถยนต์ทั้งสองคันที่เกิดเหตุ จึงได้แจ้งประสานไปที่รถดับเพลิงของเทศบาลตำบลกำแพง และตำบลใกล้เคียง ได้เข้ามาช่วยดับเพลิงในทันที ในความอลหม่านในการเกิดเหตุต่างๆ หากไม่มีการซักซ้อม และแบ่งแยกหน้าที่ ลำดับความสำคัญของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไว้ ก็อาจจะเกิดความเสียหายที่รุนแรงเป็นอันมาก แต่หากมีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้สอดประสานในการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ก็จะสามารถลดความสูญเสีย ลดความเสียหาย และรักษาชีวิตของผู้ที่ประสบเหตุได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอำเภออุทุมพรพิสัย เป็นอำเภอที่มีเส้นทางหลักในการเดินทางสู่กรุงเทพมหานครฯ ทั้งทางรถยนต์ รถทัวร์ และรถไฟ จะมียอดผู้โดยสาร ผู้คนที่เดินทางผ่านมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่จะปฎิบัติงานร่วมกันแล้ว ยังเป็นการสร้างความเข้าใจ ความตระหนักแก่ผู้คนที่จะผ่านให้ช่วยระวังการเกิดอุบัติเหตุ โดยการปฎิบัติตามกฎหมายการจราจรด้วย