svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

บ.ยาหยอดตา ให้ 8 แสน เยียวยาคุณยายตาบอด

10 กันยายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าฯ ขอนแก่นนั่งหัวโต๊ะ เปิดห้องเจรจาตกลงค่าเยียวยาระหว่างบริษัทเจ้าของน้ำสมุนไพรกับครอบครัวหญิงวัย 56 ปีที่ตาบอดจากการนำน้ำสมุนไพรหยอดตาตามคำแนะนำของพนักงานขาย ก่อนได้ข้อสรุปเป็นเงินค่าเยียวยา จำนวน 8 แสนบาท ด้าน "จรูญ" พนักงานขายขอโทษสังคม เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 61 ที่ห้องแก่นภูมิ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นางคำแงง สุวรรณะ อายุ 56 ปี ผู้เสียหายที่สูญเสียดวงตาข้างขวาจากการนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำพลูคาวที่ใช้สำหรับดื่มไปหยอดตาเพื่อรักษาอาการต้อเนื้อตามคำแนะนำของพนักงานขาย พร้อมกับครอบครัวและญาติๆ กว่า 10 คน เดินทางเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยเรียกร้องค่าเยียวยากับตัวแทนบริษัท คิงเฮิร์บ เวิลด์ 1999 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำพลูคาว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางตัวแทนของบริษัทฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้เสียหายที่บ้านแล้ว ก่อนจะมีการนัดกันมาเจรจาอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.วัชระพงศ์ ฉุยฉาย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน จ.ขอนแก่น ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเป็นสักขีพยานในการไกล่เกลี่ย รวมทั้งพนักงานขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นคู่กรณีได้เดินทางมาร่วมการเจรจาด้วย


บ.ยาหยอดตา ให้ 8 แสน เยียวยาคุณยายตาบอด



นายพิทักษ์ สุวรรณะ อายุ 31 ปี ลูกชายของนางคำแงง ผู้เสียหาย กล่าวว่า ทางครอบครัวได้มีการปรึกษากันก่อนที่จะเดินทางมาเจรจาว่า ทางครอบครัวไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางบริษัทฯ เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ แต่ต้องการไดรับการชดเชยตามสิทธิ์ที่ผู้เป็นแม่ควรได้รับจากการสูญเสียดวงตาข้างขวาไป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนของบริษัทฯ โทรศัพท์มาพูดคุยกับแม่ว่าจะชดเชยค่าเยียวยาให้ จำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. จำนวน 1 ล้านบาท และจากบริษัทฯ อีก 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขว่าผู้เสียหายจะต้องมีหลักฐานยืนยันจากแพทย์ว่า การสูญเสียดวงตาครั้งนี้มาจากน้ำสมุนไพรที่ผู้เสียหายนำมาหยอดตา ซึ่งตนเองมั่นใจว่านับตั้งแต่ที่แม่เป็นตาต้อเนื้อก็ไม่เคยนำสิ่งแปลกปลอมไปหยอดตา แต่หลังจากหลงเชื่อพนักงานขายนำน้ำสมุนไพรพลูคาวมาหยอดตา ดวงตาจึงเริ่มอักเสบและติดเชื้อจนต้องผ่าตัดตัดเอาดวงตาข้างขวาออก ตนจึงเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบและเยียวยาแม่ตามที่เคยบอกเอาไว้

บ.ยาหยอดตา ให้ 8 แสน เยียวยาคุณยายตาบอด




ขณะที่นายศิริพัฒน์ เลาหพูนรังษี ฝ่ายกฎหมายของบริษัท คิงเฮิร์บ เวิลด์ 1999 จำกัด ระบุว่า บริษัทฯ ยินดีที่จะชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายตามความเหมาะสม ในฐานะที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่ได้มาในฐานะคู่กรณี เพราะบริษัทยืนยันว่าไม่เคยแนะนำให้พนักงานขาย นำผลิตภัณฑ์ไปโฆษณาว่าสามารถนำไปหยอดดวงตาเพื่อรักษาอาการต่างๆ ได้ วันนี้จึงได้มีการเจรจากับครอบครัวของผู้เสียหาย รวมทั้งประสานงานกับบริษัทฯ เจ้าของผลิตภัณฑ์ ก่อนจะสามารถตกลงค่าชดเชยเยียวยากันได้ เป็นเงินจำนวน 8 แสนบาท ซึ่งทางครอบครัวผู้เสียหายก็พอใจกับการช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงให้ตัวแทนของบริษัทฯ และครอบครัวของผู้เสียหายทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อดำเนินการเยียวยาตามขั้นตอนหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ ขณะเดียวกันทางยุติธรรมจังหวัดและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย รวมเป็นเงิน 52,000 บาท


บ.ยาหยอดตา ให้ 8 แสน เยียวยาคุณยายตาบอด



ด้านนายจรูญ ผ่องสนาม อายุ 57 ปี พนักงานขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำสมุนไพร ซึ่งเป็นคู่กรณีกับผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษทุกคนกับข้อผิดพลาดที่ได้กระทำลงไปจากความเชื่อของตนเองที่เชื่อว่าน้ำสมุนไพรดังกล่าวสามารถรักษาอาการตาต้อเนื้อได้ จึงได้แนะนำให้ลูกค้าทดลองใช้หยอดตา ซึ่งตนและคนในครอบครัวก็หยอดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี และยืนยันว่าทางบริษัทฯไม่ได้อบรมมาให้โฆษณาขายในลักษณะนี้ ซึ่งหลังจากนี้ตนคงไม่กล้าแนะนำใครให้นำผลิตภัณฑ์นี้ไปหยอดตาหรือใช้ผิดประเภทอีก ส่วนหลังจากนี้จะยังเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อไปหรือไม่คงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง

บ.ยาหยอดตา ให้ 8 แสน เยียวยาคุณยายตาบอด



อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วัชระพงศ์ ฉุยฉาย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน จ.ขอนแก่น ระบุว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ จึงต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบคำให้การของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีของผู้เสียหาย

logoline