"ภราดร​" เชื่อ!!! การทำหน้าที่​ของกรรมการเทนนิส US Open​ เป็นไปตามกฏฯ

ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ กรรมการข้างสนาม (แชร์อัมไพร์) ของ เซเรนา วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกชาวสหรัฐ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เทนนิส แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่สหรัฐ โดยเป็นเซเรนา วิลเลียมส์ ที่แพ้ให้กับ นาโอมิ โอซากะ จากญี่ปุ่น ไป 2-0 เซต ซึ่งประเด็นที่ตามมา คือ การต่อว่าของ เซเรนา วิลเลี่ยมส์ ต่อ กรรมการข้างสนาม ทั้งนี้อดีตแชมป์ 6 สมัย ชาวสหรัฐ ถูกคำเตือน จากกรรมการ ไม่ให้รับฟังคำแนะนำจากโค้ชระหว่างการแข่งขัน เมื่อเข้าสู่เซทที่ 2

โดยระหว่างการแข่งขันเซตที่ 2 ผู้ตัดสิน คาร์ลอส รามอส ได้ตักเตือน เซเรน่า ว่าไม่ให้ดูสัญญาณคำแนะนำจากโค้ชระหว่างแข่ง จนเป็นที่มาในการถูกตัดแต้มให้ โอซากะ ขึ้นนำ และลุกลามไปถึงการที่เซเรนา วิลเลี่ยมส์ ระเบิดอารมณ์กับแรคเก็ตของเธอ จนถูกเตือนถึงพฤติกรรมพ่วงกับการตัดแต้ม และกลายเป็นประเด็นต่อว่ากรรมการ กระทั่งการแข่งขันหยุดไปชั่วคราว และเมื่อกลับมาแข่งใหม่ เป็นมือหวดหญิงสหรัฐ ที่พ่ายให้ นาโอมิ โอซากะ 2เซท คือ 2-6 และ 4-6

ซึ่ง บอล ภรากร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสอันดับ 9 ของโลก ให้ทัศนะว่า การแสดงท่าทีของผู้ตัดสิน นับตั้งแต่การออกคำเตือนในครั้งแรก เป็นสิ่งที่นักเทนนิสหญิงสหรัฐ จะต้องตระหนักว่าพฤติกรรมทุกอย่างของเธอ กำลังถูกมอง เพื่อนำมาเป็นประเด็นได้มากขึ้น การทำหน้าที่ของกรรมการหรือผู้ตัดสิน เป็นการทำภายใต้กฏที่รองรับ จริงอยู่ที่เซเรน่า วิลเลียมส์ มีสิทธิทึ่จะปกป้องจุดยืนของเธอ กับการทำหน้าที้ในสนาม แต่หากมองกลับไปที่การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ก็อยู่ภายใต้แนวทางเดียวกัน ที่ต้องการจะรักษามาตรฐานการแข่งขันให้เป็นไปอย่างถูกกฏ แน่นอนว่า เกมนี้คือเกมที่กดดัน แต่มือเทนนิสสหรัฐ ควรที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ควรมีสมาธิกับเกม มากกว่าที่จะไปแสดงออกใดๆกับผู้ตัดสิน เพราะที่สุดแล้วเมื่อไม่มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้า ก็กระทบมาถึงผลงานต่อเกมนี้ในที่สุด ที่น่าสนใจ คือ บางครั้ง การที่นักเทนนิส จงใจ ที่จะมีปากเสียงกับกรรมการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบทางพฤติกรรม ทั้งต่อการที่จะเรียกร้องให้ผู้ตัดสิน ปรับเปลี่ยนท่าที กับการตัดสินใดๆ ที่จะทำให้ได้รับผลกระทบ จากการตัดสินที่ไม่เป็นไปตามกฏ หรือแม้แต่การใช้เวลาในจังหวะที่ต่อว่าผู้ตัดสินพักร่างกาย เพื่อเรียกฟอร์มกลับคืนมา